"พีระพันธุ์" สั่ง กฟผ. แบกหนี้ตรึงค่าไฟ 4.18 บาท แม้ภาระหนี้พุ่งเกือบแสนล้าน

28 มี.ค. 2567 | 07:33 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2567 | 07:33 น.

"พีระพันธุ์" สั่ง กฟผ. แบกหนี้ตรึงค่าไฟ 4.18 บาท แม้ภาระหนี้พุ่งเกือบแสนล้าน ลั่นต้องดูแลระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง และประชาชนเป็นสำคัญตามภารกิจ

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังดูการดำเนินงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และมอบนโยบายแก่คณะกรรมการ กฟผ. และผู้บริหารระดับสูง ว่า ให้ดำเนินการดูแลระบบพลังงานไฟฟ้าของประเทศเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ กฟผ. เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ข้าราชการ 100%  แต่ภารกิจหน้าที่ก็ไม่ได้ต่างกัน นั่นคือทําเพื่อประโยชน์ของประชาชน โดยกฟผ.เป็นผู้ที่ต้องแบกรับภาระหนี้เพื่อดูแลค่าไฟให้อยู่ที่ระดับ 4.18 บาทต่อหน่วยต่อไป
 

"เข้าใจว่าในการบริหารองค์กรแบบนี้ ต้องทำองค์กรให้รอดด้วย แต่ต้องไม่ลืมว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติ เพราะฉะนั้น กฟผ. จึงต้องแบกรับภาระหนี้ต่อไป”

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจาก กฟผ. พบว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 66 กฟผ. รับภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอหที (Ft) ค้างรับสะสม เป็นเงิน 99,689 ล้านบาท 

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 67 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย 

โดยเมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วยแล้ว ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.1805 บาทต่อหน่วย เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน