แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่าขณะนี้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างหารือเพื่อพิจารณาแนวทางดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศในรูปแบบต่างๆ อย่างเต็มที่
แต่หากไม่มีเงินเข้ามาสนับสนุน ก็จำเป็นต้องปล่อยให้ดีเซลปรับขึ้นไปเกิน 30 บาทต่อลิตร แต่จะเป็นการทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันได โดยลดการอุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในประเทศให้สอดคล้องกับราคาตลาดโลกมากขึ้น ที่สำคัญต้องกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่าการทยอยปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นจะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวนี้แน่นอน เพราะเห็นใจประชาชนที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงในการเดินทาง
โดยกองทุนจะยังช่วยอุดหนุนราคาดีเซลไปก่อนในอัตรา 4.57 บาทต่อลิตร ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ล่าสุด ซึ่งให้กองทุนอุดหนุนดีเซลเพิ่มเติมอีก 40 สตางค์ต่อลิตร
จากก่อนหน้านี้ที่อุดหนุนอยู่ 4.17 บาทต่อลิตร แม้มาตรการตรึงราคาดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรตามนโยบายของรัฐบาล จะสิ้นสุดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา แต่กองทุนยังคงอุดหนุนราคาดีเซลด้วยตัวกองทุนเองมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลที่จะสิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย.2567 ช่วยอยู่อีก 1 บาทต่อลิตร จากที่ต้องเก็บเต็มอัตรา 5.99 บาทต่อลิตร
"ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.2567 จะเป็นอย่างไร ต้องมาลุ้นกันอีกที ซึ่งหากไม่มีมาตรการใดเข้ามาอุดหนุนเลย ราคาดีเซลที่แท้จริงจะอยู่ที่ 35-36 บาทต่อลิตร แต่ยืนยันว่ากองทุนจะดูแลไม่ให้ปรับขึ้นพรวดพราดครั้งเดียวแน่นอน"
ปัจจุบันบริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จำกัด (Shell) ได้ดำเนินการปรับขึ้นราคาดีเซลไปแล้ว 0.50 บาทต่อลิตรเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 67 ทำให้ราคาน้ำดีเซลของปั๊มเชลล์เป็น 30.49 บาทต่อลิตร สูงกว่าปั๊มอื่นประมาณ 0.50 บาทต่อลิตร
ขณะที่ ปตท. ,บางจาก ,คาลเท็กซ์ ,พีที ยังคงตรึงราคาดีเซลที่ 29.99 บาทต่อลิตร
ปัจจุบันราคากลุ่มน้ำมันดีเซลของ ปตท. บางจาก ประกอบด้วย