เปิดวิสัยทัศน์ "ซีอีโอ เอ็กโก กรุ๊ป" ทุ่มงบ 3 หมื่นล. ผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 1,000 เมกฯ

27 มิ.ย. 2567 | 08:19 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2567 | 08:19 น.

เปิดวิสัยทัศน์ "ซีอีโอ เอ็กโก กรุ๊ป" ทุ่มงบ 3 หมื่นล. ผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 1,000 เมกฯ เผยล่าสุดใช้เงินลงทุนไปแล้ว 15,000-16,000 ล้านบาท ระบุมีโอกาสปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าใหม่รูปแบบ M&A ทั้งพลังงานฟอสซิลและพลังงานทดแทน  

นางสาวจิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนงปี 2567 อยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 1,000 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วประมาณ 15,000-16,000 ล้านบาท 

และอาจจะมีโอกาสขยายตัวเลขได้อีกเนื่องจากยังมีอีกหลายธุรกิจที่สนใจจะลงทุนโดยเฉพาะโครงการพลังงาน โรงไฟฟ้าใหม่และพลังงานทดแทน ขณะเดียวกันยังมองถึงโอกาสการลงทุนนอกเหนือจากแผนงานที่วางไว้ ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทยังมีความแข่งแกร่งทางด้านการเงิน 

โดยการลงทุนส่วนใหญ่ใช้เงินสดที่มีอยู่และมีศักยภาพในการกู้เพิ่มเติมจากแหล่งเงินกู้ของธนาคาร รวมถึงการออกหุ้นกู้ที่ได้รับการอนุมัติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้ 30,000 ล้านบาท และในปีก่อนมีการดำเนินการออกหุ้นกู้ไปเพียง 7,000 ล้านบาทซึ่งยังมีสัดส่วน ให้สามารถดำเนินการได้อยู่
 

ทั้งนี้ เชื่อว่าว่ารายได้ในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนแน่นอน โดยบริษัทมีแผนดำเนินงานที่ชัดเจน ซึ่งการดำเนินงาน 6 เดือนหลังที่เป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังผลิตใหม่และการสร้างรายได้และกำไร ได้แก่ การรับรู้รายได้จากการทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของโครงการ Yunlin โดยมั่นใจว่าจะสามารถก่อสร้างเสร็จเสากังหันครบ 80 ต้น กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 ตามแผนที่กำหนด  

เปิดวิสัยทัศน์ "ซีอีโอ เอ็กโก กรุ๊ป" ทุ่มงบ 3 หมื่นล. ผลิตไฟฟ้าเพิ่ม 1,000 เมกฯ

การรับรู้รายได้ของ APEX ในสหรัฐอเมริกา จากการขายโครงการและจาก 7 โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งมีแผนจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2567 กำลังการผลิตไฟฟ้า 211 เมกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น 

การรับรู้รายได้จากการลงทุนใน CDI ในอินโดนีเซีย และกลุ่มโรงไฟฟ้า Compass ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES ในเกาหลีใต้ ซึ่งสามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันยังมีโอกาสปิดดีลโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในรูปแบบ M&A ทั้งโรงไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลและพลังงานทดแทน ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ทันที รวมทั้งโอกาสในการเจรจาสัญญาใหม่ของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ โดยอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดสัญญา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2567

ด้านการลงทุนใน CDI ที่อินโดนีเซียมีความร่วมมือที่ก้าวหน้า โดยมีแผนพัฒนาโครงการเพื่อรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและสนับสนุนพันธกิจในการพัฒนาพลังงานสีเขียว ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) และโครงการแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังผลิตรวม 35 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 และจะทยอยแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์บางส่วน ภายในปี 2568 

“เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในประเทศ กำลังผลิตประมาณ 3,600 เมกะวัตต์ ส่วนขยาย ที่ภาครัฐจะเปิดเพิ่มเติมในรอบที่ 2 รวมถึงการเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ภายใต้ร่างแผน PDP 2024 และยังได้ศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการขายไฟฟ้าตรง (Direct PPA) ผ่านการขอใช้บริการระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้แก่บุคคลที่สาม (Third Party Access: TPA) ในอนาคตด้วย

นางสาวจิราพร กล่าวอีกว่า จะสานต่อการดำเนินธุรกิจของ เอ็กโก กรุ๊ป ตามทิศทาง Cleaner, Smarter and Stronger to drive sustainable growth โดย Cleaner มุ่งเน้นปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังงานหลักให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ใช้ไฮโดรเจนหรือแอมโมเนียเป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า ศึกษาและใช้เทคโนโลยี CCS หรือ CCUS เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดในพอร์ตฟอลิโอ เพื่อเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573 

ด้าน Smarter ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพในระบบไฟฟ้า โดยลงทุนและเดินเครื่องโรงไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และการแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ในธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องที่เติบโตสูง 

ขณะเดียวกันต้องมี Stronger ด้วยการผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อขยายและต่อยอดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป มีความได้เปรียบจากการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งใน 8 ประเทศ ที่มีฐานทางธุรกิจอยู่แล้ว รวมถึงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านพลังงานในเยาวชนผ่านศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม และการร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำและทรัพยากรธรรมชาติผ่านการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า

"หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 อย่างเป็นทางการ วิสัยทัศน์ของเอ็กโก กรุ๊ป คือ เสริมศักยภาพ เพิ่มโอกาส เพื่อการเติบโตของ EGCO Group อย่างยั่งยืน เดินหน้าสานต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจ Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth โดยมุ่งผลักดัน 3 เป้าหมายสำคัญ เพิ่มกำลังผลิตใหม่ควบคู่กับการบริหารพอร์ตฟอลิโอ ให้มีประสิทธิภาพ สร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจ สิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ตามกรอบ ESG"