“เอ็กโก” ปูพรม ผนึกพันธมิตร ลุยไฮโดรเจนผลิตไฟฟ้า

19 ม.ค. 2566 | 13:04 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2566 | 13:36 น.

เอ็กโก เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนความเป็นกลางทางคาร์บอน ปูพรมจับมือพันธมิตร โหมพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนผสมในก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า “เจร่า” สหรัฐอเมริกานำร่องใช้ผสมได้สูงสุดถึง 40% ลดการปล่อย CO2

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” ที่มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593

 

โดยมีแนวทางการดำเนินงานที่จะลดการลงทุนในโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินลงเหลือ 20-21% และหันไปเพิ่มการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและพลังงานอัจฉริยะเป็น 30% เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง(CO2) ลง 10% ภายในปี 2573 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Neutral) ภายในปี 2593

 

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า หนึ่งในการดำเนินงานเพื่อให้เอ็กโก กรุ๊ป ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้นั้น จะเป็นการมุ่งศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีนำเชื้อเพลิงไฮโดรเจน แอมโมเนีย และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) มาใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้า โดยร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ ศึกษาและพัฒนาแผนงานการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการดำเนินธุรกิจ

 

“เอ็กโก” ปูพรม ผนึกพันธมิตร ลุยไฮโดรเจนผลิตไฟฟ้า

 

ล่าสุดเอ็กโก กรุ๊ป ได้ลงนามเอ็มโอยูกับ บริษัท เจร่า เอเชีย จำกัด (“เจร่า เอเชีย”) บริษัทในเครือของบริษัท เจร่า จำกัด เพื่อผลักดันเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกของเอ็กโก กรุ๊ป ที่ครอบคลุมความร่วมมือด้านต่างๆ ได้แก่ การนำไฮโดรเจนและแอมโมเนีย ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดมาใช้ผลิตไฟฟ้า

 

มีเป้าหมายศึกษาความเป็นไปได้ในการนำแอมโมเนียมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี กำลังผลิตรวม 1,423 เมกะวัตต์ ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้น 50% เพื่อร่วมมือกันศึกษาการประยุกต์ใช้ในเชิงเทคนิค การประเมินความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์ และแผนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อนำแอมโมเนียมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในสัดส่วน 20% (หรือมากกว่า) ของเชื้อเพลิงถ่านหินที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า

 

อีกทั้ง ความร่วมมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของแอมโมเนียและไฮโดรเจนทั้งในและต่างประเทศ การศึกษาความเป็นไปได้ในการนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในโรงไฟฟ้าอื่นๆ รวมทั้งการศึกษาและแสวงหาโอกาสในการนำเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน หรือ CCUS มาใช้ในประเทศไทย

 

ทั้งนี้ บริษัท เจร่า ถือเป็นบริษัทพลังงานที่ผลิตไฟฟ้าอย่างครบวงจรในประเทศญี่ปุ่นและเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วน 12% ของเอ็กโก กรุ๊ป ผ่าน บริษัท เท็ปเดียเจเนอเรติ้ง บี.วี. จำกัด

 

ที่ผ่านมาบริษัท เจร่า อเมริกา จำกัด (JERA Americas Inc.) ซึ่งเป็นพันธมิตรในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น “ลินเดน โคเจน” ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีบริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู บริษัทย่อยที่เอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้นทั้งหมด ได้ประสบความสำเร็จในการนำก๊าซที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงกลั่นที่มีองค์ประกอบเป็นไฮโดรเจน นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า

 

จะส่งผลให้โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 สามารถรองรับการเผาไหม้เชื้อเพลิงผสมที่มีไฮโดรเจนผสมอยู่ได้สูงสุดถึง 40% ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่โรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 ปลดปล่อยปกติในแต่ละปี โดยจะเริ่มดำเนินงานตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

 

นายเทพรัตน์ นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความร่วมมือกับกระทรวงการลงทุน แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Ministry of Investment : MISA) เพื่อผนึกกำลังในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาด โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีไฮโดรเจนมาใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบัน ซาอุฯ ได้มีการลงทุนใน Green Hydrogen Plant มีกำลังการผลิต 650 ตันต่อวัน

 

อีกทั้ง เอ็กโก กรุ๊ป อยู่ระหว่างการพิจารณาตัดสินใจลงทุนในโครงการนำร่องผลิตไฟฟ้าจากเซลล์เชื้อเพลิงที่โรงไฟฟ้า “คลองหลวง” จ.ปทุมธานี กำลังผลิต 5 เมกะวัตต์ ที่จะนำไฮโดรเจนมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ป้อนให้กับลูกค้าที่มีความต้องการพลังงานสะอาดอีกด้วย

 

รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำไฮโดรเจนมาเป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า ของโรงไฟฟ้า “ไรเซ็ก” ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์ ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเอ็กโก กรุ๊ป ถือหุ้นอยู่ 49 %

 

“ที่ผ่านมาเอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการนำไฮโดรเจนมาเป็นเชื้อเพลิงผสมในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งมีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม ในโรงไฟฟ้า เซลล์เชื้อเพลิงกังดง เกาหลีใต้ ขนาดกำลังผลิต 19.8 เมกะวัตต์ ใช้ไฮโดรเจนที่มาจากก๊าซธรรมชาติ และออกซิเจน เป็นสารตั้งต้นหลักในการผลิตไฟฟ้าและความร้อน ซึ่งไม่มีการเผาไหม้ นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการผลิต ไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ จากการดำเนินงานดังกล่าว จะช่วยผลักดันเอ็กโก กรุ๊ป บรรลุเป้าหมายระยะกลางในการลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ลง 10% ภายในปี 2573 ได้”