การซื้อขาย “คาร์บอนเครดิต” ในประเทศไทย กำลังได้รับความสนใจจากหลาย ๆ หน่วยงานเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเทรนด์ที่สำคัญของโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต และภาคธุรกิจเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดตัวตลาดรองรับการซื้อขายคาร์บอนเครดิต TVER ผ่านศูนย์ซื้อขายคาร์บอนเครดิต ไปแล้ว
โดยเริ่มเปิดให้มีการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม FTIX เป็นการทั่วไปในวันที่ 16 มกราคม 2566 เป็นต้นมา
ล่าสุด นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO เปิดเผยว่า TGO ยังได้ร่วมหารือกับผู้แทนกองนโยบายภาษี และกองนโยบายการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณามาตรการด้านนโยบายการคลัง สำหรับแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานสะอาดและคาร์บอนเครดิต หรือ FTIX
ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ได้หารือถึงนโยบายในเรื่องของภาษี และนโยบายการส่งเสริมเกี่ยวกับการซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงแนวทางต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการลดผลกระทบทางการเงินที่จะเกิดขึ้นกับภาคธุรกิจ เมื่อมีการกำหนดมาตรการทางการค้า และมาตรการต่าง ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ทั้งนี้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เสนอขอยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในทุกขั้นตอนการจำหน่าย-จ่าย โอน และ การเปลี่ยนมือคาร์บอนเครดิต เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นตลาดคาร์บอนเครดิต รวมทั้งการได้รับสิทธิประโยชน์จากการส่งเสริมการปลูกป่าอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมจากป่าชุมชน
พร้อมกันนี้ยังพิจารณามาตรการการกำหนดราคาคาร์บอน (Carbon Pricing) ที่ตอบสนองและสอดรับกับมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ในอนาคตด้วย
นายเกียรติชาย ระบุว่า จากการหารือที่ประชุมได้มีมติให้ สศค. รับไปพิจารณาในรายละเอียด พร้อมทั้งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรมสรรพากร และกรมสรรพสามิต รวมทั้งขอข้อมูลและหารือนอกรอบเพิ่มเติมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยต่อไป