นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 66 บ้านปู เน็กซ์จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้าทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจทั่วเอเชียแปซิฟิก สำหรับในประเทศไทยเตรียมติดตั้งระบบโซลาร์ และให้บริการ EV Fleet Management ในหลายธุรกิจ
ทั้งนี้ จะมีการออกแบบให้เหมาะสมกับธุรกิจและความต้องการของลูกค้าแต่ละราย รวมถึงมีดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ลูกค้าใช้มอนิเตอร์การเดินทางและขนส่งแบบเรียลไทม์ และขยายบริการจัดการพลังงานตามแผนที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ในประเทศอินโดนีเซียจะรุกขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและระบบจัดการพลังงานเพิ่มเติม ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพเพื่อการเติบโตทั่วเอเชียแปซิฟิก รวมถึงขยายธุรกิจ New S-Curve ที่สอดรับเศรษฐกิจยุคคาร์บอนต่ำ โดยมุ่งจะเป็น Net-Zero Energy Provider
นายสินนท์ กล่าวอีกว่า ในปี 65 บ้านปู เน็กซ์ ดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter ของกลุ่มบ้านปู รวมถึงยกระดับโซลูชันพลังงานฉลาดเพื่อความยั่งยืนแบบครบวงจร (Total Solutions) ให้มีความหลากหลายและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น เพื่อรองรับเมกะเทรนด์ Net-Zero และตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกองค์กรที่ต้องการพิชิตเป้าหมายการลดคาร์บอน
โดยแนวทางการดำเนินธุรกิจที่บ้านปู เน็กซ์ให้ความสำคัญมี 2 เรื่อง ได้แก่ การมุ่งขยายพอร์ตฟอลิโอทุกธุรกิจโดยเฉพาะในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบ้านปู เน็กซ์ดำเนินธุรกิจอยู่ในหลายประเทศ ได้แก่ ไทย จีน เวียดนาม ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย รวมถึงเข้าลงทุนในบริษัทชั้นนำ และร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจพลังงานสะอาดของบ้านปู เน็กซ์
อย่างไรก็ดี ในปีที่ผ่านมาบ้านปู เน็กซ์ ได้ขับเคลื่อนทั้ง 5 ธุรกิจให้เติบโตและมีความเคลื่อนไหวทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชิราคาวะ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น
และขยายพอร์ตโซลาร์รูฟท็อปและลอยน้ำในประเทศไทย จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ปัจจุบันวางกำลังผลิตรวมกว่า 1,010 เมกะวัตต์ ธุรกิจแบตเตอรี่ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในประเทศไทย พร้อมขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่ที่โรงงานในประเทศจีน เพื่อบรรลุเป้าหมายประมาณ 4 กิกะวัตต์ชั่วโมงภายในปี 2568
ธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า ขยายการซื้อขายไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ธุรกิจอี-โมบิลิตี้ นำบริการระบบสัญจรทางเลือกแบบครบวงจร หรือ Mobility as A Service (MaaS) และการบริหารการเดินทางและขนส่งด้วยยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Management) ไปส่งเสริมการเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ
และขยายทุกบริการภายใต้ MaaS ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีจุดบริการไรด์ แชร์ริ่ง 2,500 จุด, คาร์ แชร์ริ่งกว่า 1,500 จุด, สถานีชาร์จกว่า 300 สถานี และจุดบริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า 20 แห่ง ธุรกิจพัฒนาเมืองอัจฉริยะและจัดการพลังงาน ได้ขยายฐานลูกค้าโครงการสมาร์ทซิตี้ และระบบจัดการพลังงานในหลายอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีลูกค้า 20 โครงการ
นายสินนท์ กล่าวอีกว่า บ้านปู เน็กซ์ เข้าลงทุนในบริษัท อัลโต้เทค โกลบอล เทคสตาร์ทอัพ ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มจัดการพลังงานด้วย AI และ IoT เพื่อต่อยอดธุรกิจระบบจัดการพลังงาน รวมถึง Solar Esco ผู้นำธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม ขยายบริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแบบครบวงจรในเวียดนาม รวมถึงยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ เพื่อต่อยอดโซลูชันพลังงานสะอาดให้ครบวงจรยิ่งขึ้น โดยร่วมกับเชิดชัยมอเตอร์เซลส์ และดูราเพาเวอร์ สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในไทย รุกตลาด e-Bus และ EV ทั่วเอเชียแปซิฟิก