ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา “ก๊าซเรือนกระจก” ของประเทศไทย ถูกกำหนดเอาไว้ให้เป็นหนึ่งในวาระสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงต่าง ๆ ในเวทีระดับนานาชาติ ที่ผ่านมา องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. หน่วยงานที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ ได้จัดทำโครงการ T-VER หรือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER)
นับเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจก ที่ อบก. พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ และสามารถนำปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้น ที่เรียกว่า "คาร์บอนเครดิต" ซึ่งภายใต้โครงการ T-VER นี้เรียกว่า “TVER” ไปขายในตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจในประเทศได้
อย่างไรก็ตามเพื่อมุ่งสู่ Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 หรือ Net-Zero GHG Emissions ภายในปี ค.ศ. 2065 ประเทศไทยมีองค์กรที่แสดงความเป็นผู้นำในการประกาศเจตนารมณ์ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในระดับองค์กร จำนวนทั้งสิ้น 77 องค์กร
โดยแนวทางในการบรรลุเป้าหมายคือ การเพิ่มพูนการดูดกลับก๊าซเรือนกระจก จากกิจกรรมหรือโครงการที่สามารถกักเก็บคาร์บอนไว้ได้ในระยะยาว เช่น การปลูกป่า การดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage: CCS) เป็นต้น
สรุปข้อมูล T-VER ภาคป่าไม้
ล่าสุด องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้สรุปข้อมูล โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ภาคป่าไม้ ซึ่งปัจจุบัน (ข้อมูล ณ มีนาคม 2566) มีโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) ภาคป่าไม้ที่ได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตทั้งหมดเพียง 6 โครงการ ปริมาณคาร์บอนเครดิตเท่ากับ 118,915 tCO2eq
ในจำนวนนี้มีการขายคาร์บอนเครดิตไปแล้วปริมาณ 1,254 tCO2eq จาก 2 โครงการ ได้แก่
โอกาสทองของชาบ้าน-ภาคธุรกิจ
เมื่อเกิดความต้องการคาร์บอนเครดิตปลูกป่ามีมากกว่าปริมาณที่รับรองฯ นั่นจึงเป็นโอกาสของชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัทเอกชน มูลนิธิ องค์กรอิสระ ที่มีพื้นที่ปลูกต้นไม้มากกว่า 10 ไร่ขึ้นไป มีเอกสารแสดงสิทธิที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเจ้าของผู้มีกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่นั้น ๆ ยินยอมให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถทำโครงการ T-VER เพื่อขายคาร์บอนเครดิตได้
ปัจจัยความสำเร็จของการดำเนินโครงการคาร์บอนเครดิต
1. ต้องเข้าใจในกระบวนการดำเนินงานของโครงการ T-VER และวิธีการคำนวณคำนวณคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานที่ อบก. กำหนด
2. ต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่เพียงพอที่จะทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของคาร์บอนเครดิตมีความเป็นไปได้ในการซื้อขายเชิงการค้า
3. ต้องมีงบประมาณเพียงพอสำหรับการว่าจ้างผู้ประเมินภายนอกเพื่อตรวจสอบความใช้ได้ และทวนสอบปริมาณคาร์บอนเครดิต
ข้อมูลจาก : องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน)