คลื่นความร้อนที่รุนแรงมากขึ้นและปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักขึ้นเป็นสภาพอากาศที่รุนแรงซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และระบบนิเวศทางธรรมชาติ เว้นแต่ดำเนินการเพื่อลดการปล่อยมลพิษจะเพิ่มมากขึ้นภายในปี 2573
การรักษาภาวะโลกร้อนไม่ให้สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม 1.5 องศาเซลเซียส เป็นเป้าหมายของข้อตกลงปารีสปี 2558 จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงลึก รวดเร็ว และยั่งยืน แต่ปัจจุบันการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ประกอบกับการใช้พลังงานและที่ดินที่ไม่เท่าเทียมกันและไม่ยั่งยืน ได้นำไปสู่ภาวะโลกร้อนที่ 1.1 องศาเซลเซียส การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องลงมือทำตอนนี้ และต้องลดลงเกือบครึ่งหนึ่งภายในปี 2573
รายงานระบุว่า อุณหภูมิโลกเฉลี่ยคาดว่าจะสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2573 นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า หากอุณหภูมิความร้อนทะลุระดับไปแล้ว จะผลส่งให้เกิดหายนะทางธรรมชาติตามมา ทั้งยังย้ำว่า หากลงมือช้ากว่าที่กำหนดไม่กี่ปีจะมีแนวโน้มสูงที่จะทำให้โลกไปไม่ถึงจุดหมาย หรืออนาคตโลกจะร้อนระอุกว่าเดิม
ในปี 2561 IPCC ได้เน้นย้ำถึงระดับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพื่อจำกัดไว้ 1.5องศาเซลเซียส เเละ 5 ปีต่อมา ความท้าทายนั้นยิ่งใหญ่ขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กว่าศตวรรษของการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ตลอดจนพลังงานและที่ดินที่ไม่เท่าเทียมกันและไม่ยั่งยืนการใช้ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้น 1.1องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม
โฮซึง ลี (Hoesung Lee) ประธานคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) กล่าวว่า การเผยแพร่การดำเนินการด้านสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมจะไม่เพียงลดความสูญเสียและความเสียหายต่อธรรมชาติและผู้คนเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ที่กว้างขึ้นด้วย หากเราลงมือทำตอนนี้ ก็ยังสามารถสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและน่าอยู่ให้กับทุกคนได้
ความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเกิดขึ้นแล้วบนพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ทั้งคลื่นความร้อนรุนแรงในทุกภูมิภาค ผู้คนนับล้านเผชิญกับความอดอยาก และภัยพิบัติต่าง ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่งสูงขึ้นทำให้โลกกำลังเข้าสู่วิกฤตและเผชิญกับความเสียหาย
อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า IPCC ระบุว่าต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายในปี 2583 ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วยการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ