นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผยว่า ธนาคารฯได้ดำเนินการต่อยอดโครงการ ยู-โซลาร์ ขยายเครือข่ายพันธมิตรไปยังผู้จัดหาอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศรวม 9 ราย ภายใต้โครงการยู-โซลาร์ 2.0
ทั้งนี้ ธนาคารฯจะสนับสนุนโซลูชันทางการเงินให้แก่ทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทยพัฒนาอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังได้แต่งตั้งให้ Sitron Power เป็นผู้รับเหมาออกแบบติดตั้ง (EPC Contractor) ของโครงการยู-โซลาร์เพิ่มอีก 1 ราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไปที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในเรื่องการติดตั้งและควบคุมระบบ และแพคเกจบริการหลังการขาย
อย่างไรก็ดี ธนาคารฯ มุ่งในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจแบบ Net Zero ของทั้งภูมิภาค โดยโครงการ ยู-โซลาร์ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อในทุกภาคส่วนตั้งแต่ผู้พัฒนาโครงการ ผู้รับเหมา และผู้ผลิต ช่วยให้การเข้าถึงสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน เพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นไปอย่างสะดวกขึ้น ส่งเสริมการพัฒนาด้านพลังงานหมุนเวียนและการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในประเทศ
"นับตั้งแต่ที่ธนาคารฯ เปิดตัวโครงการนี้ในปื 2563 ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อสีเขียวกว่า 3.12 พันล้านบาท ให้แก่บริษัทและที่อยู่อาศัยรวมกว่า 1,800 แห่ง เปลี่ยนมาติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์"
นายตัน ชุน ฮิน กล่าวอีกว่า โครงการยู-โซลาร์ 2.0 ได้ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้แก่ผู้พัฒนาโครงการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และผู้รับเหมาออกแบบและติดตั้ง (EPC Contractor) ที่ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียน
ธนาคารฯ พร้อมสนับสนุนสินเชื่อสีเขียวและข้อเสนอพิเศษทางการเงิน ให้แก่ผู้พัฒนาโครงการและผู้รับเหมาที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากบริษัทผู้จัดหาอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้าร่วมโครงการ ช่วยให้สามารถมีเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนาและติดตั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์หลายโครงการพร้อมกัน โดยจะช่วยเร่งให้การพัฒนาด้านพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม โครงการยู-โซลาร์เป็นส่วนหนึ่งของกรอบแนวคิดการเข้าถึงเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อเมืองอัจฉริยะของยูโอบี (UOB Smart City Sustainable Finance Framework) สำหรับโครงการยู-โซลาร์ 2.0 ธนาคารได้ขยายกรอบการอนุมัติให้สินเชื่อไปยังทุกภาคส่วนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ภายใต้กรอบแนวคิดการให้สินเชื่อสีเขียวและเงินทุนหมุนเวียนอย่างยั่งยืน (UOB Green Trade and Working Capital Sustainable Finance Framework)
โดยกรอบแนวคิดทั้งสองจะสนับสนุนการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียวและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างพันธมิตรในอุตสาหกรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
"โครงการยู-โซลาร์ของกลุ่มธนาคารฯ ทั่วภูมิภาคอาเซียน ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 186,000 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (tCO2e) หรือเทียบได้กับการลดการใช้รถยนต์ลงเกือบ 40,000 คันต่อปี หรือปลูกต้นไม้มากกว่า 3 ล้านต้นภายในระยะเวลากว่า 10 ปี"