"กนอ." รุกดูดทุนจีนอุตสาหกรรม EV-อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เข้าไทย

16 เม.ย. 2566 | 23:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 เม.ย. 2566 | 03:06 น.

"กนอ." รุกดูดทุนจีนอุตสาหกรรม EV-อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เข้าไทย พร้อมสานต่องานตาม MOU ระหว่างกระทรวงพาณิชย์จีน กับกระทรวงอุตสาหกรรมไทย ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. ได้ร่วมเดินทางไปโรดโชว์กับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทย

โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมไทยในการรองรับ สนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนจีน ซึ่งได้รับความความสนใจอย่างมากจากผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) และผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของจีนที่ต้องการขยายฐานการผลิตมายังประเทศไทย 

ทั้งนี้ ได้มีการขอรับทราบแนวทางการส่งเสริมการลงทุน และพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีความพร้อม รวมถึงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่มีอยู่ในประเทศไทย และที่จะติดตามเข้ามาลงทุน

นอกจากนี้ ยังได้ไปชมเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองหม่าอันซาน (Ma’anshan Economic and Technological Development Zone) ที่เมืองหม่าอันซาน มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีนพื้นที่ 128 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม 176 แห่ง มี 3 อุตสาหกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ การผลิตวัสดุอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ อุตสาหกรรมอาหารสมัยใหม่ และอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานทางเลือก 

อย่างไรก็ดี กนอ. ได้เข้าเยี่ยมชมบริษัทชั้นนำที่มีความโดดเด่นด้านการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต 4 แห่ง ได้แก่ 

กนอ.รุกดูดทุนจีนอุตสาหกรรม EV-อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่เข้าไทย

  • บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมรูปแบบเยลลี Gummy ซึ่งใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในระบบ Warehouse และ Logistics สามารถลดจำนวนแรงงานที่ใช้ได้ 
  • บริษัทวิจัยและพัฒนาผลิตและจำหน่ายบล็อก/แผ่นคอนกรีตมวลเบา ซึ่งเป็นองค์กรสาธิตของมณฑลอานฮุยเพื่อการบูรณาการข้อมูลและอุตสาหกรรม ซึ่ง SCG เป็นลูกค้าของบริษัทด้วย 
  • บริษัทผลิตรถหัวลากที่ใช้เทคโนโลยี New Energy Heavy Truck ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในเมือง 
  • โรงงานผลิตและจำหน่าย Dairy products เป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดนอกเขตมองโกเลียใน และเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก

นายวีริศ กล่าวอีกว่า กนอ.ยังได้เข้าพบนาย ซาง เชี่ยงเฉียน (Shan Xiangqian) รองผู้ว่าการมณฑลอานฮุย และนายเกอ บิน (Ge Bin) นายกเทศมนตรีเมืองหม่าอันซาน และคณะ เพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน 

และการจัดตั้งคณะทำงานร่วม 2 ประเทศ เพื่อสานต่อการดำเนินงานตาม MOU ระหว่าง กระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนที่มีการลงนามในคราวการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ผ่านมา
 

“ได้เห็นการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองหม่าอันซาน เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีหม่าอันซาน (Ma’anshan Economic and Technological) ที่ทำได้อย่างดี และตรงกับเป้าหมายของ กนอ.ที่เรากำลังดำเนินการอยู่ คือ การส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) เมืองอัจฉริยะ (Smart City) และนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industrial Estate)"

อย่างไรก็ตาม หากมีนักลงทุนจากจีน หรือ จากเมืองหม่าอันซาน ต้องการขยายการลงทุนมายังประเทศไทย โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม ภายใต้ความร่วมมือตาม MOU ดังกล่าว กนอ.มีพื้นที่ที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับรองรับ โดยสามารถดำเนินงานร่วมกันได้ใน 3 ทางเลือกที่ กนอ.ได้ทำการศึกษาไว้

สำหรับ 3 ทางเลือกเพื่อการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 

  • หาพื้นที่ลงทุนเอง โดยมีขั้นตอนการเตรียมการอย่างน้อย 2-3 ปี เพื่อหาพื้นที่และการจัดทำ EIA การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม 
  • ลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่จัดตั้งแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น นิคมอุตสาหกรรม Smart Park จังหวัดระยอง ที่ก่อสร้างไปแล้วกว่า 55% และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2567 หรือ ลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่ว่างขายและให้เช่าอยู่แล้ว 
  • การลงทุนสร้าง สมาร์ท ซิตี้ ร่วมกับเอกชนไทย