“ซัมซุง” ทุ่มงบรักษ์โลก 1.7 แสนล้าน สู่ Net Zero

11 มิ.ย. 2566 | 01:12 น.
อัพเดตล่าสุด :11 มิ.ย. 2566 | 01:26 น.

ซัมซุง ประกาศเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero 2050 พร้อมการลงทุนเชิงกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี เพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน ผลักดันก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ด้วยงบประมาณลงทุนกว่า 1.74 แสนล้านบาท

เมื่อกันยายน พ.ศ. 2565 บริษัท ซัมซุง ได้ประกาศกลยุทธ์ระดับสากลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยงบลงทุนดังกล่าว จะใช้เพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ที่มุ่งเน้นการกรองก๊าซเรือนกระจก และดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่เกิดขึ้ระหว่างการผลิตชิป พร้อมทั้งพยายามทำให้ธุรกิจ Smart Devices (สมาร์ทโฟน, แท็บเลต ฯลฯ) ปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2573

รวมทั้งมีแผนที่จะเพิ่มการรีไซเคิลทรัพยากรใน Supply Chain เช่น ลิเธียมและพลาสติก นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์การอนุรักษ์นํ้า การขยายการรวบรวมขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดมลพิษ

ซัมซุง ได้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มบริษัทที่มีการตั้งเป้าหมายในการใช้พลังงานสีเขียว 100% (100% Renewable Energy) หรือ RE100 โดยมีแผนให้ทุกหน่วยธุรกิจนอกเกาหลีใต้ รวมไปถึงแผนก Device eXperience (DX) ใช้พลังงานหมุนเวียนภายใน 5 ปี ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย โดยตั้งเป้าบรรลุเป้าหมายในภายในปี 2570

นายซังโฮ โจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า ซัมซุง ได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษในห่วงโซ่คุณค่าในระยะกลางถึงระยะยาว (ขอบเขตที่ 3) โดยมุ่งเน้นแนวทางใหม่ในการลดการปล่อยก๊าซในพื้นที่ต่างๆ เช่น ซัพพลายเชน โลจิสติกส์ และการหมุนเวียนของทรัพยากร ตลอดจนสนับสนุนซัพพลายเออร์ในการกำหนดเป้าหมายการปล่อยมลพิษและความพยายามในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทั้งนี้ มีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนทางตรงและทางอ้อมสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 จากการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงานระดับสูง ที่คาดว่าจะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้เทียบเท่าประมาณ 17 ล้านตัน (ฐานข้อมูลปี 2564) โดยปี 2565-2573 จะใช้งบประมาณลงทุนกว่า 1.74 แสนล้านบาท หรือกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 7 ล้านล้านวอน)

“ซัมซุง” ทุ่มงบรักษ์โลก 1.7 แสนล้าน สู่ Net Zero

  • ไทยซัมซุงลุยตลาดสมาร์ทโฮม

ขณะที่ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ จำกัด ได้ชูวิสัยทัศน์หลัก Sustainable Living และ Connectivity มอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและเชื่อมต่ออัจฉริยะ โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยภายใน 3 ปี โดยปีที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายสมาร์ทโฮมเติบโตได้ถึง 72% เนื่องจากคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืนกับการประหยัดพลังงานมากขึ้น ทำให้ซัมซุงมองเห็นโอกาสในการเติบโตจากกลุ่มสมาร์ทโฮมค่อนข้างมากเช่นกัน

ซัมซุง ได้ยกระดับการเชื่อมต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฮมให้ดียิ่งขึ้นด้วย Home Automation ครบวงจร โดยเป็นนวัตกรรมเดียวที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชั่น และติดตามการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมทั้งมี AI Saving Mode ช่วยประหยัดไฟซึ่งสามารถลดค่าไฟโดยเฉลี่ยได้มากถึง 40% นอกจากนี้ SmartThings ของซัมซุง ยังเป็นนวัตกรรมแรกที่ได้รับรองมาตรฐานพลังงาน ENERGY STAR SHEMS

ทั้งนี้ ซัมซุง อิเลคทรอนิคส์ ได้ให้ความสำคัญกับการทำให้ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานและใช้ไฟฟ้าน้อยลง ขณะเดียวกันยังรับประกันว่า วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีความยั่งยืนมากขึ้น ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงการกำจัดและการรีไซเคิล รวมถึงการพัฒนาชิปหน่วยความจำพลังงานตํ่าพิเศษใหม่ ที่มีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานต่อปีของผลิตภัณฑ์หน่วยความจำที่ใช้ในศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์เคลื่อนที่ลงอย่างมาก ภายในปี 2568 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ปัจจุบัน

สำหรับการใช้เทคโนโลยีพลังงานตํ่า ซัมซุงใช้ในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ 7 กลุ่มหลัก ได้แก่ สมาร์ทโฟน ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ ทีวี จอภาพ และพีซี โดยมีเป้าหมายลดระดับการใช้พลังงานลงโดยเฉลี่ย 30% ในปี 2573 เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเดียวกันในปี 2562

  • เก็บกลับขยะอิเล็กทรอนิกส์

ซัมซุงได้วางแผนขยายขอบเขตการจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์คืน จากเดิมเก็บได้กว่า 50 ประเทศ ขยายเป็นมากกว่า 180 ประเทศภายในปี 2573 ในขณะเดียวกันยังวางแผนจะจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์คืนให้ได้อย่างน้อย 10 ล้านตัน ตั้งแต่ปี 2552-2573 ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม และจะเก็บกลับให้ได้ 25 ล้านตันภายในปี 2593 นอกจากนี้ Samsung Electronics ยังจะส่งเสริมโปรแกรม upcycling ที่รวบรวมสมาร์ทโฟนที่ใช้แล้วและนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น อุปกรณ์ IoT (Internet of Things)

รวมไปถึงการผลิตที่ชาร์จแบตเตอรี่สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบสแตนบายแบบไม่ใช้พลังงาน และการนำขยะจากแหล่งฝังกลบมาเข้ากระบวนการบริหารจัดการขยะและวัตถุดิบเหลือใช้ภายในปี 2568 เนื่องจากซัมซุง เป็นองค์กรขนาดใหญ่และมีการใช้ผลิตภัณฑ์ซัมซุงแพร่หลายทั่วโลก ดังนั้น ซัมซุงจึงสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในการรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านขนาดของธุรกิจทำให้ซัมซุงมีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการพัฒนาเทคโนโลยี