"กฟผ."ผนึกพันธมิตรรุก 5 โครงการมุ่งเป้าสังคมคาร์บอนต่ำ

27 มิ.ย. 2566 | 04:20 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2566 | 04:21 น.

"กฟผ."ผนึกพันธมิตรรุก 5 โครงการมุ่งเป้าสังคมคาร์บอนต่ำ ส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ยกระดับมาตรฐานเยาวชนไทย น้อมรับศาสตร์พระราชาพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ดำเนินการร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ,สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.)  มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และ 8 สถาบันอุดมศึกษา 

ทั้งนี้ กฟผ. มุ่งที่จะดูแลความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศ เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ควบคู่กับส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลสังคมชุมชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งการจัดการคุณภาพอากาศ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ การเพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย EGAT Carbon Neutrality ภายในปี ค.ศ. 2050 ตามเป้าหมายประเทศ 

นายปวัตร์ นวะมะรัตน เลขาธิการสำนักงาน กปร. กล่าวว่า กปร.มุ่งดำเนินงานสนองพระราชดำริอย่างต่อเนื่องด้วยดีตลอดมาระหว่าง กฟผ. กับ สำนักงาน กปร. โดยในปี 2566 จะร่วมกันส่งเสริมประสิทธิภาพพลังงาน ด้วยการสนับสนุนการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และระบบกักเก็บพลังงาน ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน นำร่อง 4 แห่ง ในเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก 

เพื่อปรับปรุงและเสริมสร้างความมั่นคงด้านการใช้ไฟฟ้าในการเรียนการสอน รวมถึงบูรณาการต่อยอดการปลูกป่าในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อมบริเวณป่าต้นน้ำ นำร่องดำเนินงานบริเวณอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี และอ่างเก็บน้ำลำสะพุง จังหวัดชัยภูมิ รวม 700 ไร่ ภายใต้โครงการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วมของ กฟผ. 

กฟผ.ผนึกพันธมิตรารุก 5 โครงการมุ่งเป้าสังคมคาร์บอนต่ำ

ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษามูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ แสดงเจตจำนงเดินหน้าต่อเนื่องขับเคลื่อนโครงการศาสตร์พระราชาสืบสานงานของพ่อปี 2 ร่วมกับ กฟผ. ที่มุ่งพัฒนา ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ลุ่มน้ำที่มีความสัมพันธ์กับ 7 เขื่อนพระนาม 3 โรงไฟฟ้าของ กฟผ. เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ให้พึ่งพาตนเองได้ 

ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า สถาบันอุดมศึกษาทั้ง 8 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจะร่วมสนับสนุนโครงการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้นวัตกรรมด้านพลังงาน 

และสิ่งแวดล้อมปี 2 ให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะ ศักยภาพ และความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนานวัตกรรม โดยต่อยอดการส่งเยาวชนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโครงการห้องเรียนสีเขียว กฟผ. เข้าสู่ระดับอุดมศึกษา จากการเข้าร่วมกิจกรรมการประกวดภายใต้หัวข้อนวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียวลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก