นายเจมส์ แอนดริว มอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ WAVE ได้ดำเนินการร่วมกับบริษัท ชไนเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อสนับสนุนองค์กรในประเทศไทยในการผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กรและบรรลุเป้าหมายในการเป็นกลางทางคาร์บอน
โดยการจัดหาโซลูชันด้านการบริหารจัดการพลังงาน และบริการองค์กรเป็น one-stop-service ตั้งแต่บริการให้คำปรึกษา รวมถึงการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามา implement เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน รวมถึงการพัฒนากลุ่มลูกค้าใหม่ในประเทศไทย
ทั้งนี้ มองว่าผู้ประกอบการไทยต้องการการสนับสนุนอย่างครบวงจรเพื่อผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในองค์กรและบรรลุเป้าหมายในการเป็นกลางทางคาร์บอน ดังนั้นจึงมีความต้องการโซลูชัน แบบ one-stop-service ตั้งแต่การได้รับคำปรึกษา การคำนวณ Carbon Footprint และการวางแผน (road mapping) รวมถึงการเข้าถึงเทคโนโลยีในการลดก๊าซเรือนกระจกและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน
สำหรับบริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด สามารถให้คำปรึกษาทั้งในส่วนของผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นผู้พัฒนาโครงการและจัดหาคาร์บอนเครดิต ทั้งจากพลังงานสะอาดและพลังงานอื่นๆ บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับองค์กรและ/หรือผลิตภัณฑ์ (CFO/CFP) สามารถช่วยวิเคราะห์ช่องว่างทางธุรกิจ (Gap Analysis) และยังสามารถพัฒนากลยุทธ์เพื่อส่งเสริมให้องค์กรของลูกค้าบรรลุเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน ในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน
ส่วนทางด้าน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะช่วยส่งเสริมและผลักดันให้ลูกค้าทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยี EcoStruxure สถาปัตยกรรมแบบเปิดมีความสามารถด้าน IoT รวมไปถึงซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ครอบคลุมการให้บริการแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น บ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ โรงงาน เครื่องจักร โครงสร้างพื้นฐาน
ซึ่งผลิตภัณฑ์และโซลูชันของชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีจุดแข็งในการช่วยลูกค้าลดการปล่อยคาร์บอน และก๊าซเรือนกระจกได้อย่าง มีประสิทธิภาพตามความความเหมาะสมสำหรับโครงการนั้นๆ อีกด้วย