นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมจะต้องมีการปรับตัวและพัฒนาตนเองสู่ความยั่งยืน ทั้งการเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การเตรียมความพร้อมในการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส.อ.ท. เล็งเห็นความสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม จึงกำหนด 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ที่ 30.9%
อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกมีมูลค่าติดลบติดต่อกัน 3 ไตรมาส และมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ดังนั้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกและการแข่งขันที่รุนแรง รัฐบาลจึงกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ อาทิ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมสีเขียว และอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
สำหรับนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมใน 3 เดือนข้างหน้า ประกอบด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงฯ มีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชนผ่านการขับเคลื่อน 4 มิติ ได้แก่