นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในการกล่าวปาฐกถาพิเศษงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2566 : Eco Innovation Forum 2023 ว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อยู่ที่ 30.9%
อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกมีมูลค่าติดลบติดต่อกัน 3 ไตรมาส และมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง จากทั้งปัจจัยภายในและภายนอก ดังนั้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกและการแข่งขันที่รุนแรง รัฐบาลจึงกำหนดทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ อาทิ การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมสีเขียว และอุตสาหกรรมความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในประเทศ เพื่อให้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
สำหรับนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมใน 3 เดือนข้างหน้า ประกอบด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงฯ มีเป้าหมายพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนคู่ชุมชนผ่านการขับเคลื่อน 4 มิติ ได้แก่
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า กนอ.รวมทั้งผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม มีเป้าหมายเดียวกันในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ทันกับกระแสความเปลี่ยนแปลงต่างๆ
"งานสัมมนาวิชาการ ECO Innovation Forum 2023 เน้นสื่อสารประเด็นด้านความยั่งยืนที่จะเป็นประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรม โดย กนอ. รวมถึงสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส.อ.ท. ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด MIND INSPIRE for Eco 2023 เป็นแรงบันดาลใจเพื่อใช้ หัว และ ใจ นำพาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่สากล ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน และเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ"
นอกจากนี้ ยังเป็นกลไกหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดผลกระทบจากการประกอบการอุตสาหกรรมต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน สร้างการเติบโต ด้านเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนไปพร้อมกัน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)