นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า คูโบต้า (Kubota) มีแผนที่จะผลิตรถแทรกเตอร์ไฟฟ้า หรือแทรกเตอร์ EV
ทั้งนี้ ล่าสุดคูโบต้าได้นำเสนอรถแทรกเตอร์ไฮบริดที่ญี่ปุ่น และยุโรป อีกทั้งยังมีแผนที่จะนำเสนอรถที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนฟิลเซลล์ (Fuel Cell)ในอนาคต 2-3 ปี
โดยจะเริ่มทำตลาดที่ประเทศแถบยุโรป สหรัฐฯ และขยายสู่เอเชียในอนาคต
ขณะที่มิตซุย (MITSUI) มีความสนใจในการผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน หรือ SAF ซึ่งทำจากพลังงานชีวมวล หรือไบโอแมส (Biomass) และน้ำมันพืชใช้แล้ว
"จะเห็นว่าทุกองค์ในเวลานี้ ล้วนแล้วแต่มีความสนใจในธุรกิจที่จะทำไปสู่ธุรกิจที่สีเขียว และทุกรายมีการพูดถึงพลังงานสะอาดที่มีความจำเป็นต้องเอามาใช้ในโรงงานมากขึ้น"
นายนฤตม์ กล่าวอีกว่า Climate Change เป็นปัจจัยแรกที่มีผลอย่างมากต่อทิศทางการลงทุนในอนาคต โดยจากการเดินทางไปจัดกิจกรรมในต่างประเทศจะพบว่านักลงทุนต่างให้ความสำคัญกับเรื่องการลดคาร์บอนเป็นหลัก รวมถึงการใช้พลังงานสะอาดในกิจการ การทำตามขั้นตอนในการลดคาร์บอน
"จากวิเคราะห์ปัจจัยที่จะมีผลต่อการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้าจะพบว่ามีหลายปัจจัย เช่น สภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร และกฏกติกาภาษีใหมาของโลก"
โดยการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมตามแนวคิด BCG ในระยะต่อไปนั้น มีเป้าหมายในการทำให้มูลค่าเศรษฐกิจอุตสาหกรรม BCG เพิ่มขึ้นจาก 21% เป็น 24% ของ GDP ในปี 2570 หรือจาก 3.4 เป็น 4.4 ล้านล้านบาท (เป้าประเทศ) และมุ่งสู่การเป็น BCG Hub ของอาเซียน