มร. เพียซ เอิง กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในปี 2563 จำนวนผู้ซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 ใน 10 คนทำการซื้อสินค้าทางออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งครั้ง ในขณะที่ประเทศไทยมีจำนวนถึง 9 ใน 10 คน การระบาดใหญ่ในปี 2563 ถึงปี 2564 ได้เร่งการเติบโตของการใช้จ่ายโดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 68% และคาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 ไปจนถึงปี 2568
แม้ว่าจะเป็นการเติบโตแบบชะลอตัวก็ตาม ผนวกกับการเปิดพรมแดนและอัตราเงินเฟ้อ ที่นำไปสู่การคาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งอาจมีผลให้ตัวเลขการเติบโตช้าลงไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์การใช้จ่ายออนไลน์ของ 3 กลุ่มแรกที่มียอดการใช้จ่ายสูงสุดรวมกันยังคงต่ำกว่าการใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซ ดังนั้นอุตสาหกรรมโลจิสติกส์จึงจำเป็นต้องปรับขยายขนาดเพื่อรองรับการเติบโต มองการณ์ไกลและวางแผนล่วงหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ
นินจาแวน ประเทศไทย จึงสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการให้บริการ เราเริ่มวางแผนสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนี้ ตามการคาดการณ์เพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณพัสดุ รวมถึงติดตั้งสายพานกึ่งอัตโนมัติเพื่อช่วยในการคัดแยกพัสดุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการเพิ่มขีดความสามารถในการจัดส่งพัสดุด่วนของเรา”
คลังสินค้าแห่งใหม่นี้สามารถรองรับปริมาณพัสดุได้มากกว่า 800,000 ชิ้นต่อวัน ออกแบบมาในรูปทรง I-shape ซึ่งเป็นการลำเลียงพัสดุแบบเส้นตรง เพิ่มความสามารถในคัดแยกพัสดุได้มากกว่าคลังสินค้าเดิมถึง 40% หรือคิดเป็นจำนวนพัสดุ 80,000 ชิ้นต่อวัน พร้อมด้วยสายพานลำเลียงกึ่งอัตโนมัติที่มีความยาว 4 กิโลเมตร กับท่าโหลดพัสดุมากกว่า 400 ท่า ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกพัสดุได้มากขึ้นถึง 200% และสามารถช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งพัสดุได้เร็วขึ้นถึงสี่ชั่วโมง
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของนินจาแวน ประเทศไทย ในการมอบประสบการณ์การจัดส่งพัสดุที่ไม่ยุ่งยากให้กับผู้ใช้บริการ บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจัดส่งผ่านแอปพลิเคชันมือถือที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ – Mobile Biz นอกจากนี้บริษัทฯยังเปิดแฟรนไชส์ Ninja Points และร่วมมือกับ SABUY Group เปิดหน้าร้านให้มีจำนวนครอบคลุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการของนินจาแวนได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของนินจาแวน ประเทศไทย ในการมอบประสบการณ์การจัดส่งพัสดุที่ไม่ยุ่งยากให้กับผู้ใช้บริการ บริษัทได้เพิ่มช่องทางการจัดส่งผ่านแอปพลิเคชันมือถือที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ – Mobile Biz นอกจากนี้บริษัทฯยังเปิดแฟรนไชส์ Ninja Points และร่วมมือกับ SABUY Group เปิดหน้าร้านให้มีจำนวนครอบคลุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการของนินจาแวนได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการจัดส่งพัสดุที่ปลอดภัยและรวดเร็วแล้ว นินจาแวน ประเทศไทยยังมีเป้าหมายที่จะยก ระดับโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ให้กับผู้ส่งสินค้าผ่านโปรแกรมสะสมคะแนน Ninja Rewards ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ การสะสมคะแนน Ninja Rewards มอบสิทธิ์ให้ผู้ส่งพัสดุสามารถนำคะแนนสะสมมาแลกเป็นของรางวัล ส่วนลด หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ จากโปรแกรมได้ เช่น ส่วนลดค่าจัดส่ง เงินคืน หรืออุปกรณ์ในการจัดส่งพัสดุ