Play
บัซซี่บีส์ ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 800 ล้าน
บัซซี่บีส์รุกบิ๊กดาต้า เปิดตัว “Buzzebees Z-Through” โมเดลการตลาดดิจิตอลรูปแบบใหม่ เก็บข้อมูลผู้ใช้กว่า 45 ล้านราย วิเคราะห์ความต้องการ ตั้งเป้าปี 61 รายได้ทะลุ 800 ล้าน
นายไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า บัซซี่บีส์ ดำเนินธุรกิจด้าน CRM Privilege มากว่า 5 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 80% และจำนวนผู้ใช้ในประเทศไทยกว่า 45 ล้านคน นับตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่ในปัจจุบันผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน โดยหลักๆ เป็นการใช้งานโซเชียลมีเดีย และการแชต ส่วนแอพพลิเคชันอื่นๆ อย่างเช่น ธนาคาร ผู้ใช้งานจะใช้เวลาแค่เพียงไม่ถึง 10 นาทีต่อวัน บัซซี่บีส์ ต้องหาวิธีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือดีลในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ให้ลูกค้าสนใจ จึงเกิดเป็น บัซซี่บีส์ ซี-ธรู (Buzzebees Z-Through) คอนเซ็ปต์ของโมเดลการตลาดรูปแบบใหม่ ที่เน้นการศึกษาและติดตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค
ด้านนางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาของผู้ใช้งาน พริวิเลจคือ จำนวนโปรโมชันที่มากเกินไป ทำให้ค้นหาโปรโมชันหรือดีลที่ตรงกับความต้องการลำบาก บัซซี่บีส์จึงได้เปิดตัวโมเดลการตลาดรูปแบบใหม่ที่ใช้บิ๊กดาต้าเข้ามาช่วยในการเก็บรวบรวมพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Buzzebees Z-Through” โดยการนำข้อมูลบิ๊กดาต้าจากผู้ใช้งานกว่า 45 ล้านคน มาต่อยอดพัฒนา
ซึ่งระบบจะเก็บสถิติต่างๆ เช่น การหยุดดูผลิตภัณฑ์สินค้า จำนวนวินาทีในการ scroll down ว่าสนใจอะไร หรือไม่สนใจอะไร การคลิกเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ระบบจะสามารถรับรู้ถึงประเภทของสินค้าที่อยู่ในความสนใจ พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้ เพียงใส่แฮชแท็ก สิ่งที่อยากรู้บนโลกออนไลน์ และนำมาจับคู่กัน เพื่อออกแบบโปรโมชันหรือแคมเปญต่างๆ ได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
นายไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบัน บัซซี่บีส์ มีลูกค้าแบรนด์องค์กรแล้วกว่า 60 ราย อาทิ ซัมซุง, ไทยพาณิชย์, มี้ด จอห์นสัน, นํ้าดื่มสิงห์, ซิตี้แบงก์, กสิกรไทย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา บัซซี่บีส์สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาใช้การแลกรับสิทธิประโยชน์ผ่านทางสมาร์ทโฟนแทนการแลกรับสิทธิ์ในรูปแบบกระดาษหรือคูปอง โดยมีผู้ใช้งานแลกสิทธิประโยชน์ (Redeem) เฉลี่ยสูงถึง 1.2 ล้านครั้งต่อเดือน ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไว้กว่า 800 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 512 ล้านบาท, ปี 2559 อยู่ที่ 379 ล้านบาท และปี 2558 อยู่ที่ 161 ล้านบาท
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3370 วันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561
นายไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า บัซซี่บีส์ ดำเนินธุรกิจด้าน CRM Privilege มากว่า 5 ปี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 80% และจำนวนผู้ใช้ในประเทศไทยกว่า 45 ล้านคน นับตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่ในปัจจุบันผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน โดยหลักๆ เป็นการใช้งานโซเชียลมีเดีย และการแชต ส่วนแอพพลิเคชันอื่นๆ อย่างเช่น ธนาคาร ผู้ใช้งานจะใช้เวลาแค่เพียงไม่ถึง 10 นาทีต่อวัน บัซซี่บีส์ ต้องหาวิธีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือดีลในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ให้ลูกค้าสนใจ จึงเกิดเป็น บัซซี่บีส์ ซี-ธรู (Buzzebees Z-Through) คอนเซ็ปต์ของโมเดลการตลาดรูปแบบใหม่ ที่เน้นการศึกษาและติดตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค
ซึ่งระบบจะเก็บสถิติต่างๆ เช่น การหยุดดูผลิตภัณฑ์สินค้า จำนวนวินาทีในการ scroll down ว่าสนใจอะไร หรือไม่สนใจอะไร การคลิกเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ระบบจะสามารถรับรู้ถึงประเภทของสินค้าที่อยู่ในความสนใจ พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้ เพียงใส่แฮชแท็ก สิ่งที่อยากรู้บนโลกออนไลน์ และนำมาจับคู่กัน เพื่อออกแบบโปรโมชันหรือแคมเปญต่างๆ ได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
นายไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามปัจจุบัน บัซซี่บีส์ มีลูกค้าแบรนด์องค์กรแล้วกว่า 60 ราย อาทิ ซัมซุง, ไทยพาณิชย์, มี้ด จอห์นสัน, นํ้าดื่มสิงห์, ซิตี้แบงก์, กสิกรไทย เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา บัซซี่บีส์สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาใช้การแลกรับสิทธิประโยชน์ผ่านทางสมาร์ทโฟนแทนการแลกรับสิทธิ์ในรูปแบบกระดาษหรือคูปอง โดยมีผู้ใช้งานแลกสิทธิประโยชน์ (Redeem) เฉลี่ยสูงถึง 1.2 ล้านครั้งต่อเดือน ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไว้กว่า 800 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 ที่ผ่านมามีรายได้อยู่ที่ 512 ล้านบาท, ปี 2559 อยู่ที่ 379 ล้านบาท และปี 2558 อยู่ที่ 161 ล้านบาท
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3370 วันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561