วิกฤติโควิดหนุน Ed-Tech โต แห่เปิดแอพเรียนออนไลน์

22 เม.ย. 2563 | 23:35 น.

วิกฤติโควิดหนุน Ed-Tech โต แห่เปิดแอพเรียนออนไลน์

 วิกฤติการระบาดของโรคโควิด - 19 ที่เกิดขึ้นนั้นนอก จากจะกระทบต่อการทำงาน การใช้ชีวิตและเศรษฐกิจแล้วยังส่งผลกระทบโดยตรงไปที่ภาคการศึกษา  จากมติของคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบให้ เลื่อนวันเปิดเทอมภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2563 ไปเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลให้แอพพลิเคชันเพื่อการศึกษาทั้งหลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องทบทวนบทเรียนจากที่บ้าน

 

 ผุด StartDee แอพเรียนออนไลน์

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ดดูเคชั่น เทคโนโลยี จำกัด หรือ ไอติม อดีตผู้สมัคร ..พรรคประชาธิปัตย์ ได้ผันตัวมาจับทางธุรกิจผุดไอเดียปั้น “StartDee” แอพพลิเคชันด้านการศึกษาที่เตรียมปลดล็อกให้เรียนฟรีในช่วงโรงเรียนเลื่อนเปิดเทอม  โดย ไอติมเปิดเผยว่า “StartDee” ก่อตั้งขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาบูรณาการ ส่งเสริม และใช้ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนในโรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศกว่า 8 ล้านคน สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง โดยเล็งเห็นถึงความแตกต่างและไม่เท่าเทียม กันของการเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียน ทั้งนี้ตั้งเป้าว่า StartDee จะเป็นเสมือน “Netflix ของการศึกษาไทยให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการเรียนการสอนในทุก วิชา ทุกระดับชั้นด้วยการนำเทคโนโลยี มาสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบ “Personalized Learning” แนะนำวิดีโอที่ผู้เรียนแต่ละคนสนใจ ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน

 

 

วิกฤติโควิดหนุน Ed-Tech โต แห่เปิดแอพเรียนออนไลน์

 

การเลื่อนเปิดเทอมของโรงเรียนได้สร้างความกังวลให้กับนักเรียนและผู้ปกครองว่าจะเรียนไม่ทันเนื่องจากปีการศึกษาที่ถูกบีบให้แคบลง รวมถึงข้อสังเกตจากสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ว่าการขาดหายจากการเรียนรู้ไป 6 สัปดาห์ อาจส่งผลให้ความรู้ของนักเรียนหายไปถึงครึ่งปีการศึกษา StartDee จึงเร่งพัฒนาแอพพลิเคชันเพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนฟรีในช่วงที่ถูกเลื่อนเปิดเทอมตั้งแต่กลางพฤษภาคม ถึง 1 กรกฎาคม ผ่านโครงการ  School For All”

สแนปอาสค์ ปรึกษาติวเตอร์ออนไลน์

สแนปอาสค์” Snapask แอพพลิเคชันติวเตอร์ออนไลน์ โดยนายชวัล เจียรวนนท์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง ซึ่งมีอัตราการเข้าถึงนักเรียน 10% ของนักเรียนทั้งหมด ด้วยจุดแข็งในเรื่องของการจับคู่ (Matching) ด้วย AI ระหว่างนักเรียนและติวเตอร์ โดยมีบริการยอดนิยมอย่าง “SnapTutor” ที่สามารถตอบโจทย์เด็กยุคใหม่ที่ต้องการบริหารเวลาไปพร้อมกับการใช้โทรศัพท์มือถือให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับกลุ่มผู้เรียนหลักส่วนใหญ่ของ คือ เด็กที่เรียนอยู่ในระดับปานกลางที่อยากพัฒนาตัวเอง  แต่ไม่กล้าถามอาจารย์ในห้องเรียน ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จะชอบใช้สแนปอาสค์มาก ส่วนใหญ่เด็กในกลุ่มนี้อยู่ในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ ซึ่งวิชาที่ได้รับความนิยมที่เด็กเข้ามาสอบ ถามมากที่สุดคือ คณิตศาสตร์และฟิสิกส์ เพราะเป็นวิชาที่ต้องการคำอธิบาย  ขณะที่สถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในตอนนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในเรื่องของการเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ เห็นได้จากประเทศอื่น ที่มีผู้เรียนผ่านสแนปอาสค์ บนช่องทาง ออนไลน์เพิ่มขึ้น 20-30% ในช่วงนี้

 

ทั้งนี้สแนปอาสค์ มีระบบการคัดเลือกติวเตอร์ที่เข้มข้น ผู้สมัครจากทั่วประเทศต้องส่งเอกสารสำคัญต่างๆ และทำแบบทดสอบวัดระดับความสามารถในการสอน ซึ่งเด็กจะสามารถระบุได้ว่าต้องการติวเตอร์ที่มีคุณลักษณะแบบไหนและในทางฝั่งซัพพลาย เรามีข้อมูลต่างๆ ของติวเตอร์ตั้งแต่เข้ามาในระบบ โดยมีการสกรีนทั้งเรื่องของ ประวัติข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ ความรู้ความสามารถจากการสอบวัดระดับก่อนการสอนจริง ทั้งนี้ภาพรวมของผู้ใช้เห็นได้ชัดเจนว่ามีผลการเรียนที่ดีขึ้น ซึ่งการใช้งานแอพพลิเคชันที่ง่ายจะทำให้เด็กอยากถาม กล้าถามและได้คำตอบ จะทำให้เด็กอยากเรียนรู้มากขึ้น

 

หน้า 26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,568 วันที่ 23-25 เมษายน 2563