นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บ ประเทศไทย ได้เปิดตัว ‘Grab Loves Thais ช่วยกันนะคนไทย’ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจของพวกเราทุกคน โดยมุ่งหวังที่จะนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการปลดล็อคและทลายข้อจำกัดต่างๆ เพื่อสร้างโอกาส ยกระดับคุณภาพชีวิต แก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนในสังคมผ่าน 4 กิจกรรมหลัก” นางสาวจันต์สุดา กล่าวเพิ่มเติม
โครงการ Grab Loves Thais ช่วยกันนะคนไทย ประกอบไปด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่
• Grab Loves Locals ช่วยร้านค้าคนไทยกันนะ ที่ริเริ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็กโดยการให้ความรู้ด้านการทำการตลาดออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืนผ่าน GrabAcademy โครงการเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยในการให้ความรู้ในการทำการตลาดอออนไลน์, การจัดแคมเปญ Support Local Restaurant สนับสนุนร้านค้าคนไทยเพื่อเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้า ผ่านพื้นที่โฆษณาพิเศษ GrabAds เพื่อโปรโมทร้านค้าคนไทยกว่า 500 ร้านที่อยู่บนแพลตฟอร์มแกร็บฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมโปรโมชั่นฟรีค่าส่งตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 ถึง 31 กรกฎาคม 2563 มูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท รวมไปถึงการเปิดตัวเพลงหัวใจใกล้กัน ของ BNK48 เพื่อกระตุ้นการรับรู้ของผู้คนออกไปในวงกว้าง
• Grab Loves Farmers ช่วยเกษตรไทยกันนะ ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลไม้คุณภาพส่งออกผ่านบริการ แกร็บมาร์ท (GrabMart) บนแอปพลิเคชันแกร็บ (Grab) ภายใต้ชื่อ ‘Farmers’ Market (ตลาดเกษตรกร) ณ จุดวางจำหน่าย 10 จุดหลักทั่วกรุงเทพฯ และยังมีแผนที่จะขยายการจัดจำหน่อยออกไปยังทั่วประเทศฯ ในเร็วนี้ๆ
• Grab Loves Partners ช่วยพี่คนขับกันนะ ซึ่งแกร็บได้ผนึกความร่วมมือกับ 6 พันธมิตรจัดทำถุงยังชีพที่บรรจุผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคจากแบรนด์ชั้นนำ จำนวน 40,000 ชุด รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท เพื่อมอบความห่วงใยและส่งต่อกำลังใจให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับของแกร็บทั่วประเทศ ตลอดเดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคม 2563
• Grab Loves Children ช่วยเด็กไทยกันนะ โดยร่วมมือกับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อให้ผู้ใช้บริการทุกท่านมีส่วนร่วมในการส่งต่อมื้ออาหารที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการให้แก่เด็กยากจนที่มีภาวะทุพโภชนาการภายใต้แนวคิด #มื้อนี้พี่เลี้ยง เพียงกดสั่งอาหารภายในร้าน ‘ทุพโภชนา’ บน GrabFood เพื่อส่งมอบเป็นมื้ออาหารเช้าให้กับเด็กๆ
"ในฐานะแอพพลิชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการในทุก ๆ วัน (Everyday Everything App) ได้ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามพันธกิจหลักขององค์กรที่เรียกว่า “Grab For Good” ซึ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสในการหารายได้ พร้อมพัฒนาทักษะและเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้กับทุกคนที่อยู่ในระบบนิเวศธุรกิจ (Ecosystem) ของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถก้าวทันเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล ในขณะเดียวกัน แกร็บยังได้ผนึกความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในการส่งเสริมการพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ การพัฒนาเพื่อยกระดับมาตรฐานการเดินทางและขนส่ง การส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายในประเทศ การผลักดันสังคมดิจิทัลและระบบเศรษฐกิจแบ่งปันให้เป็นรูปธรรม รวมไปถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก เป็นต้น"
“นับเป็นเวลากว่า 7 ปีแล้วที่ธุรกิจของเราค่อยๆ เติบโตและหยั่งรากลึกเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงเคียงคู่ไปพร้อมกับสังคมไทย จากวันนั้นถึงวันนี้ ความมุ่งมั่นของ แกร็บ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้ในวันที่พวกเราทุกคนต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ก็ตาม โดยแกร็บได้ริเริ่มโครงการต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับพาร์ทเนอร์ บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 กว่า 100 โครงการทั่วทั้งภูมิภาค สำหรับในประเทศไทย นอกจากกิจกรรมและความร่วมมือต่างๆ กับหน่วยงานภาครัฐที่เราได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุด
ด้าน นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานเปิดโครงการ กล่าวว่า “ภายใต้นโยบายเทคโนโลยีเกษตร 4.0 ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ตั้งเป้าหมายปฏิรูปการบริหารและการบริการของกระทรวงเกษตรฯ และภาคเกษตรกรรมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสินค้าเกษตรด้วยการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าทางการเกษตรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ประกอบกับวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านรูปแบบการค้า การบริการ การบริโภค รวมไปถึงภาคการผลิต เทคโนโลยีก็ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล แม้แต่ในกลุ่มสินค้าการเกษตรของไทย กระทรวงเกษตรฯจึงได้ร่วมมือกับแกร็บ ในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทยผ่านโครงการ Grab Loves Farmers ช่วยเกษตรไทยกันนะ เปิดตัว Farmers’ Market (ตลาดเกษตรกร)โดยในปัจจุบันเกษตรกรไทยสามารถขายสินค้าเกษตรได้บนแพลตฟอร์มแกร็บแล้ว ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เองก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ภาคเอกชนให้ความใส่ใจในการส่งเสริมและสนับสนุนคนไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน รวมถึงช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสามารถเติบโตต่อไปได้ท่ามกลางกระแสตามการเปลี่ยนโลกด้วยธุรกิจดิจิทัล”
จากรายงานผลลัพธ์ทางสังคมของแกร็บประจำปี 2562/2563 (Social Impact Report 2019/2020) พบว่าในช่วงที่คนไทยต้องหยุดอยู่กับบ้านตามมาตรการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ที่ผ่านมา แกร็บได้เปิดโอกาสในการสร้างรายได้ให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับกว่าแสนคน ร้านค้ารายใหม่กว่า 30,000 ร้านค้าให้ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มแกร็บ พร้อมเงินสนับสนุนการเพื่อช่วยร้านค้าคนไทยมูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท และเพิ่มช่องทางขายผลไม้ให้แก่เกษตรกรไทย โดยตั้งเป้าในการช่วยเหลือเกษตรกรผ่านจำนวนการสั่งผลไม้ 40,000 ออเดอร์ภายในสิ้นปี รวมไปถึงการส่งมอบความห่วงใยและกำลังใจผ่านถุงยังชีพให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท และในยามที่ประเทศหยุดชะงักแกร็บยังได้ขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการที่จำเป็นให้แก่ผู้ใช้บริการกว่าล้านรายใน 30 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด แกร็บ ก็ยังคงพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือคนไทยทุกคนไปตลอด
“ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่พวกเราทุกคนก็ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับผลกระทบของโควิด-19 กันไปอีกระยะเวลาหนึ่ง แต่ในเมื่อชีวิตของพวกเรายังต้องดำเนินต่อไป แกร็บ ก็จะยังคงมุ่งมั่นที่จะดูแลคุณภาพชีวิตคนไทย ผ่านการสร้างงานสร้างรายได้ และการเข้าถึงบริการต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน บนแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีของแกร็บ เพื่อให้สังคมไทยยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเราเชื่อว่าในสถานการณ์แบบนี้ หากพวกเราร่วมมือร่วมใจ เราก็จะรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน กิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการนี้ไม่อาจเกิดขึ้น และคงไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ หากขาดซึ่งความร่วมมือและการสนับสนุนจากองค์กรภาคีต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรทางธุรกิจ ที่สำคัญที่สุด คือ ผู้ใช้บริการทุกคน เพราะทุกครั้งที่คุณใช้บริการของแกร็บ ไม่ว่าจะเรียกรถ สั่งอาหาร หรือบริการใดๆ ก็ตาม นั่นหมายถึงคุณได้มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย ทำให้เกษตรกรไทยมีกำลังใจและรอยยิ้ม ช่วยให้เหล่าพาร์ทเนอร์คนขับและจัดส่งอาหารใน 30 จังหวัดทั่วประเทศมีรายได้เพื่อหล่อเลี้ยงและจุนเจือครอบครัว ช่วยสร้างโอกาสให้เจ้าของร้านอาหารต่างๆ ยังดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และช่วยให้เด็กยากจนที่มีภาวะทุพโภชนาการ” นางสาวจันต์สุดา กล่าวปิดท้าย