นายฮาว ริ เร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ดีแทคพยายามทำความเข้าใจและเข้าถึงโจทย์ในการดำเนินชีวิตของผู้ใช้บริการดีแทค โดยค้นหาว่า ดีแทคสามารถเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือหรือสนับสนุนการดำเนินชีวิตประจำวันของลูกค้านอกเหนือไปจากการให้ connectivity ที่ดีที่สุดได้อย่างไร ‘ยารักษาโรค’ คือปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต ที่เราพบว่าผู้ใช้บริการดีแทคในระบบเติมเงินส่วนใหญ่จะเป็นลูกจ้างรายวัน หรือคนทำงานที่ใช้แรงงาน มีปัญหาเศรษฐกิจขาดรายได้ จากการตกงาน หรือรายได้ลดลง ในขณะที่ยังมีภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพ ซึ่งในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. ที่มีการระบาดของโควิด-19 ผลสำรวจพบว่าประชาชนมากกว่า 60% ไปที่ร้านยาเพื่อขอคำแนะนำและอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับการป้องกันตัวเอง
ทั้งนี้แคมเปญใจดีช่วยค่ายา จะลดภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อยารักษาโรคที่ร้านขายยาที่ร่วมรายการ เพียงแค่โชว์ SMS ที่ร้านขายยา ก็รับยากลับบ้านได้เลย โดยนำคูปองช่วยจ่ายค่ายาจากบริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด ไปซื้อยา ณ ร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องโดยเภสัชกรภายในเครือข่ายร้านขายยาของอรินแคร์ทั่วประเทศ
สำหรับแคมเปญ ‘ดีแทค ใจดีช่วยค่ายา’ ดีแทคได้ร่วมกับ พันธมิตร บริษัท ซันเดย์ อินส์ จำกัด และอรินแคร์ (Arincare) แพลตฟอร์มสำหรับเภสัชกรและร้านขายยา ที่ช่วยให้ร้านขายยาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยพัฒนาการดูแลคนไข้ให้ดีขึ้น ในช่วงของการเปิดตัวแคมเปญนี้ มีร้านขายยาที่ได้รับใบอนุญาตร่วมโครงการกับดีแทคแล้ว ในทุกจังหวัด จำนวนกว่า 400 ร้านทั่วประเทศ นอกจากนี้ดีแทคยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มร้านยาให้ครอบคลุมทุกอำเภอภายในปีนี้ และมุ่งมั่นขยายไป 1 ตำบล 1 ร้านยา เพื่อให้ลูกค้าดีแทคทุกคนสามารถเข้าถึงร้านยาได้อย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ในประเทศไทย” นายฮาว ริ เร็น กล่าว