ขณะที่คู่แข่งในตลาดต่างเปิดศึกชิงชัยผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G กันอย่างดุเดือด แต่ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กลับดูจะเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวที่ตอนนี้ยังไม่ขอตามเกม 5G และยืนหยัดในแนวทางการให้บริการที่จับต้องได้ พร้อมตั้งตารอความชัดเจนของกรอบเวลาในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ที่จะใช้เป็นแบนด์หลักในการขับเคลื่อน 5G ที่ทั่วโลกเลือกใช้กว่า 70%
พร้อมสู้ แต่ไม่ตามเกม
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคอ่านเกมตลาดและเข้าใจว่าขณะนี้ลูกค้ามีกำลังซื้อลดลง จากรูปแบบการใช้งานที่เปลี่ยนไป มีการใช้งานในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้นและในความเป็นจริงคือ ลูกค้าไม่ได้ต้องการ 5G แต่ลูกค้าต้องการอินเตอร์เน็ตที่เร็วขึ้นทั่วประเทศ และต้องการบริการที่ตอบโจทย์มากขึ้น ซึ่งดีแทคได้เดินหน้าพัฒนาขยายบริการบนคลื่น 2300 MHz ร่วมกับทีโอที และขยาย Massive MIMO ในพื้นที่ที่มีการใช้บริการหนาแน่น นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะออกแคมเปญเพื่อให้เห็นว่าดีแทคตอบรับต่อตลาด ซึ่งหากพูดถึงงบการตลาดนั้น ดีแทคไม่ได้โฟกัสที่จำนวนค่าใช้จ่ายแต่เลือกใช้ในสิ่งที่จำเป็น โดยดีแทคย้ำว่ายังคงมีการลงทุนในไทยต่อเนื่อง
เผยกลยุทธ์ฝ่าวิกฤติ
เนื่องจากในสถานการณ์นี้ลูกค้าส่วนใหญ่มีความกังวลในเรื่องการซื้อสินค้าที่ต้องคำนึงถึงราคา รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงไปสู่ออนไลน์มากขึ้น สำหรับกลยุทธ์ที่ทางดีแทคได้วางไว้ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันในภาวะวิกฤตินี้ คือการทำให้แน่ใจว่าองค์กรมีความสามารถที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ปัจจุบันดีแทคมีพนักงานราว 4,000 คน ไม่รวมเอาต์ซอร์ซ และยืนยันว่ายังไม่มีแผนที่จะปรับลดพนักงานลง แต่จะมีการนำระบบออโตเมชันเข้ามาใช้เพิ่มเติมในส่วนที่สามารถทำงานแทนคนได้ ควบคู่ไปกับการอัพสกิล รีสกิลพนักงานให้มีความพร้อมเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลง โดยทุ่มงบลงทุนจำนวนมากเพื่อพัฒนาพนักงาน
เชื่อลูกค้ากลับมาบวก
จะเห็นว่าในช่วงไตรมาส 1 -2 ที่ผ่านมา จำนวนลูกค้าดีแทคลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากดีแทคเป็นเจ้าตลาดทัวริสต์ซิม และมีฐานลูกค้าที่เป็นแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก เมื่อต้องกลับประเทศทำให้จำนวนลูกค้าลดลง แต่ลูกค้าพรีเพด-โพสต์เพดไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้หลังวิกฤติโควิดดีแทคจะปล่อpหมัดเด็ดด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากดีแทครีวอร์ดเพื่อดึงลูกค้ากลับมาให้ได้อย่างแน่นอนด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่ตรงกับความต้องการใช้งานจริง รวมถึงเร่งพัฒนาบริการและการทำทรานแซคชันบนช่องทางออนไลน์ให้ลูกค้ามีความสะดวกมากที่สุด
เตรียมทุ่มคว้าคลื่น 3,500
นายชารัด กล่าวต่ออีกว่า ประเทศไทยควรนำคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz มาจัดสรรเพื่อใช้ในการพัฒนาเครือข่าย 5G เนื่องจากคลื่นความถี่ดังกล่าวเป็น core band ที่ 70% ของการทดสอบทดลอง 5G ของโอเปอเรเตอร์ทั่วโลกเลือกใช้ เนื่องจากมีอีโคซิสเต็มส์รองรับ ทั้งอุปกรณ์มือถือ แอพพลิเคชันเพื่อการใช้งานในระดับอุตสาหกรรมโดยที่ไม่ต้องลงทุนเพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ซึ่งล่าสุด สำนักงาน กสทช. ได้เชิญผู้ประกอบการ ภาคีที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมอยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ดีแทคต้องการเห็นความชัดเจนเรื่องกรอบเวลาและรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดการเตรียมพร้อมคลื่นดังกล่าวให้นำมาใช้งานได้หรือรีฟาร์ม และกรอบเวลาในการประมูล เพื่อให้คลื่นพร้อมถูกนำมาใช้งานได้ในทันทีหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในเดือนกันยายนปี 2564
: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,603 หน้า 16 วันที่ 23-26 สิงหาคม 2563