ก่อนที่งาน CES 2021 จะเริ่มขึ้นในวันที่ 11 มกราคมที่จะถึงนี้ เซบาสเตียน ซาง ประธานฝ่ายวิจัยของซัมซุง ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของซัมซุงปีนี้ คือ “Better Normal for All” ที่ต้องการยกระดับการใช้ชีวิตในปี 2021 ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จริงด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ซัมซุงกำลังจะเปิดตัวในงาน ดังนี้ ปี 2563 นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่กระทบการใช้ชีวิตของทุกคนอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว พลิกโฉมวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง ทำให้เราต่างตระหนักถึงสิ่งที่มีความสำคัญจริงๆ เช่น เรื่องสุขภาพ คนสำคัญรอบตัว และประสบการณ์การใช้ชีวิตที่มีค่า
เราจำเป็นต้องบูรณาการการใช้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เพื่อการเชื่อมต่อ และการเข้าถึงความบันเทิงในทุกๆ วัน ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น เราต่างใช้เทคโนโลยีเพื่อดำเนินชีวิตต่อไป ในห้วงเวลาที่ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่งนี้ ทั้งในการเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญของชีวิต
เมื่อปีก่อน ซัมซุงเปิดทศวรรษใหม่ที่งาน CES 2020 และได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ที่จะทำให้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทวีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น เราได้กล่าวถึงโลกที่พื้นที่อยู่อาศัยสามารถกลายเป็นสตูดิโอออกกำลังกาย และห้องประชุม ห้องครัวที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของคุณได้ ซัมซุงไม่คาดคิดมาก่อนว่าประสบการณ์เหล่านี้จะเพิ่มความสำคัญขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้มาเจอกันในปีนี้ แต่นี่อาจเป็นงาน CES ที่น่าตื่นเต้นที่สุดครั้งหนึ่ง และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่ประสบการณ์ที่จะเปลี่ยนชีวิตของเราและสู่โลกดีขึ้น ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ ที่ดีกว่าเดิม หรือ “Better Normal for All”
ธีม “Better Normal for All” มาจากแนวคิดที่ว่า เทคโนโลยีที่ดีสามารถพาเราไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิมได้ ในงานแถลงข่าวของซัมซุงที่ CES เราจะได้อวดโฉมอนาคตที่ดีกว่าเดิมให้ทุกท่านได้เห็น ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่ถูกดีไซน์มาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะยกระดับการใช้ชีวิตภายในบ้าน และนวัตกรรมต่างๆ ที่สามารถเปลี่ยนสังคมและโลกได้ ตัวอย่างเทคโนโลยีคร่าวๆ ที่คุณจะได้พบในงานแถลงข่าวของซัมซุง ได้แก่
คุณคือผู้ที่จะได้ดีไซน์ “Better Normal for All” ของคุณเอง ตอนนี้เราต่างใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ นี่คือเหตุผลว่า ทำไมซัมซุงจึงนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในแบบของคุณ เริ่มตั้งแต่ ช่วยให้ฝึกฝนการเล่นโยคะ การออกกำลังกาย ไปจนถึง ช่วยสร้างสรรค์เมนูอาหารจากเครื่องปรุงที่คุณเองเลือกได้ ผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องครัวที่เชื่อมต่อกัน
นิยามของคำว่า “Better Normal for All” ของคนแต่ละคนจะไม่มีทางเหมือนกันได้เลย เพราะความต้องการและกิจวัตรของแต่ละบุคคล ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตและยกระดับทุกช่วงเวลา ทำให้คุณสามารถเข้าถึงประสบกาณ์ใหม่ได้ง่ายและตื่นตากว่าเดิม ลองนึกภาพว่าชีวิตจะง่ายแค่ไหน ถ้าคุณมีคู่หูในบ้านที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของตัวคุณ มาช่วยจัดโต๊ะหรือเก็บของที่เพิ่งซื้อมา จดจำและจัดการสิ่งของได้ด้วยความแม่นยำอย่างเอาใจใส่ หลังจากงาน CES สิ่งเหล่านี้จะไม่ได้เป็นเพียงภาพในจินตนาการ เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าเทคโนโลยีอัจฉริยะใหม่ล่าสุดจะมาเป็นผู้ช่วยในบ้านได้อย่างไร เราได้พัฒนาเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับปัญญาประดิษฐ์ในตัว เพื่อให้คุณทำได้มากกว่าที่เคย และเราอยากให้ทุกคนได้เห็นว่าหุ่นยนต์จะมีบทบาทอย่างไรบนเส้นทางสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม
บนเส้นทางสู่อนาคต เรามีหน้าที่ต่อสังคมและโลก ไม่แพ้หน้าที่ต่อลูกค้า เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงช่องทางการสื่อสาร และการเชื่อมต่อกับประสบการณ์จากทั่วโลกเท่านั้น แต่เป็นหัวใจในการก้าวไปยังอนาคต ในขณะนี้ ที่ทุกคนกำลังพยายามผ่านอุปสรรคสุดท้าทายในชีวิต เราทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่ออนาคตที่ดีสำหรับเรา และเจนเนอเรชันต่อๆ ไปด้วย
ในงาน CES ซัมซุงจะกล่าวถึงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความยั่งยืน ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก การกำจัดอุปสรรคเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิมคือพันธกิจหลักของเรา โดยไม่ลืมใส่ใจผู้คน สังคม และโลก
เราทุกคนกำลังยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นแห่งโอกาส ที่จะทำให้เราก้าวข้ามปีก่อนที่แสนยากลำบาก ไปสู่อนาคตในนิยาม “Better Normal for All” ผมรอคอยที่จะได้แสดงภาพอนาคตที่ซัมซุงจะทำให้เกิดขึ้นจริงในงานแถลงข่าวของซัมซุง จากงาน CES ในวันที่ 11 มกราคม 2564 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย