“อาลีบาบา กรุ๊ป”โชว์ยอดขายออนไลน์ไตรมาสแรก 37.6 ล้านล้านบาท

“อาลีบาบาบรรลุเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้เป็น 1 พันล้านคนต่อปีทั่วโลกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา” แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “ไตรมาสแรก (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) ที่ผ่านมา บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่มั่นคง อีโคซิสเท็มของเราทำยอดขายออนไลน์รวมได้ 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 37.6 ล้าน ล้านบาท)

ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะคุณค่าที่แบรนด์มอบให้ลูกค้าและร้านค้า เรารู้สึกอิ่มเอมใจกับการบริโภคภายในประเทศจีนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่เกิดขึ้นในทุกแง่มุมของชีวิต เรามุ่งมั่นที่จะสรรหาประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้าด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรม เรายึดมั่นในพันธกิจ การทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกแห่งทั่วโลกในยุคดิจิทัล”

“เราทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้สำหรับปี 2564 โดยมีการเติบโตด้านรายได้เพิ่มขึ้น 32% ไม่รวมรายได้ในส่วนของธุรกิจ Sun Art ที่เพิ่งควบกิจการมา รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นเพราะธุรกิจหลักมีการเติบโตที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอาลีบาบา คลาวด์ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) โตขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า บริษัทฯ ลงทุนเพิ่มในธุรกิจใหม่ๆ และธุรกิจที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ” แม็กกี้ วู ประธานกรรมการฝ่ายการเงิน อาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว “เราคาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโตขึ้นมากกว่า 930,000 ล้านหยวน (ประมาณ 4.5 ล้าน ล้านบาท) ภายในปี 2565 ด้วยศักยภาพในการแข่งขัน กำไรที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและปริมาณเงินหมุนเวียน เราจึงวางแผนไว้ว่าจะใช้กำไรและต้นทุนสำหรับงบประมาณปี 2565 เพื่อช่วยเหลือร้านค้าบนแพลตฟอร์มและลงทุนในธุรกิจใหม่และธุรกิจหลัก ที่จะช่วยเพิ่มจำนวนแบรนด์ให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อและเจาะตลาดใหม่ๆ ”

ไฮไลท์ของธุรกิจในไตรมาสแรก สิ้นสุด 31 มีนาคม 2564

•             รายได้รวม (Revenue) อยู่ที่ 187,395 ล้านหยวน หรือ 28,602 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9.1 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า หากไม่รวมรายได้ในส่วนของธุรกิจ Sun Art ที่เพิ่งควบกิจการมา รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 40% จากปีก่อนหน้า เป็น 159,952 ล้านหยวน หรือ  24,413 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7.7 แสนล้าน บาท)

•             จำนวนผู้บริโภคประจำต่อปี (Annual active consumers) ในตลาดค้าปลีกของจีนสูงถึง 811 ล้านคน ใน ไตรมาสแรก  สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 เพิ่มขึ้น 32 ล้านคน จากไตรมาส 4 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563

•             จำนวนผู้ใช้ผ่านสมาร์ทโฟน (Mobile MAUs) ในตลาดค้าปลีกของจีนสูงถึง 925 ล้านคน เมื่อเดือนมีนาคม 2564 เพิ่มขึ้น 23 ล้านคน จากเดือนธันวาคม 2563

•             งบขาดทุนจากการดำเนินงาน (Loss from operations) อยู่ที่ 7,663 ล้านหยวน หรือ 1,170 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 37,214 ล้านบาท) เป็นผลมาจากการจ่ายค่าปรับให้กับสำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐของประเทศจีนตามกฎหมายป้องกันการผูกขาด (Anti-monopoly Law) หากไม่มีกรณีเรื่องค่าปรับ บริษัทฯ จะมีกำไรจากการดำเนินงาน (Income from operations) อยู่ที่ 10,565 ล้านหยวน หรือ 1,612 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 51,329. ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 48% กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) ที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า เป็น 29,898 ล้านหยวน หรือ 4,563 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 145,243 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า เป็น  22,612 ล้านหยวน หรือ 3,451 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 109,875 ล้านบาท)             

 •             งบขาดทุนสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ (Net loss attributable to ordinary shareholders) อยู่ที่ 5,479 ล้านหยวน หรือ 836 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26,613 ล้านบาท) ขาดทุนสุทธิ (Net loss) อยู่ที่ 7,654 ล้านหยวน หรือ 1,168 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 37,185 ล้านบาท)   เนื่องมาจากค่าปรับตามกฎหมายป้องกันการผูกขาดที่กล่าวไปข้างต้น หากไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวและค่าใช้จ่ายบางประการ กำไรสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (Non-GAAP net income) จะอยู่ที่ 26,216 ล้านหยวน หรือ 4,001 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 127,353 ล้านบาท)

•             งบขาดทุนหุ้นปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ (Diluted loss per ADS) อยู่ที่ 1.99 หยวน หรือ 0.30 เหรียญสหรัฐ  (ประมาณ 9.6 บาท) งบขาดทุนปรับลดต่อหุ้น (Diluted loss per share) อยู่ที่ 0.25 หยวน หรือ 0.04 เหรียญสหรัฐ หรือ 0.30 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 1.21 บาท) สาเหตุหลักมาจากค่าปรับตามกฎหมายป้องกันการผูกขาด หากไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวและผลกระทบส่วนอื่น กำไรปรับลดต่อหุ้นที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไปในตลาดหุ้นสหรัฐ (Non-GAAP diluted earnings per ADS) จะอยู่ที่ 10.32 หยวน หรือ 1.58 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 50 บาท) เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า และกำไรปรับลดต่อหุ้นที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (Non-GAAP diluted earnings per share) อยู่ที่ 1.29 หยวน หรือ 0.20 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.53 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 6.3 บาท) เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหน้า

•             กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (Net cash provided by operating activities) อยู่ที่ 24,183 ล้านหยวน หรือ 3,691 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 117,493 ล้านบาท) และกระแสเงินสดสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (Non-GAAP free cash flow) ไหลออกอยู่ที่ 658 ล้านหยวน หรือ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,196 ล้านบาท) เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 4,214 ล้านหยวน (ประมาณ 20,471 ล้านบาท)

ไฮไลท์ของธุรกิจในปีงบประมาณ สิ้นสุด 31 มีนาคม 2564

•             รายได้รวม (Revenue) อยู่ที่ 717,289 ล้านหยวน หรือ 109,480 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.4 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หากไม่รวมรายได้ในส่วนของธุรกิจ Sun Art ที่เพิ่งควบกิจการมาในเดือนตุลาคม 2563 รายได้รวมจะเพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อนหน้า เป็น 674,420 ล้านหยวน หรือ 102,937 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท)

•             จำนวนผู้บริโภคประจำต่อปี (Annual active consumers) ในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบาเพิ่มขึ้น 1 พันล้านรายตามเป้าหมาย นับรวมผู้บริโภคในตลาดค้าปลีกของจีน บริการแพลตฟอร์มท้องถิ่น แพลตฟอร์มมีเดียและ เอนเตอร์เทนเมนท์ที่สูงถึง 891 ล้านราย และผู้ใช้ในต่างประเทศอีกประมาณ 240 ล้านราย จำนวนบริโภคประจำต่อปีในตลาดค้าปลีกของจีนเพิ่มขึ้น 85 ล้านราย จาก 811 ล้านราย จากปีงบประมาณสิ้นสุดมีนาคม 2563

•             จำนวนผู้ใช้ผ่านสมาร์ทโฟน (Mobile MAUs) ในตลาดค้าปลีกของจีนสูงถึง 925 ล้านคน เมื่อเดือนมีนาคม 2564 เพิ่มขึ้น 79 ล้านคน จากเดือนมีนาคม 2563

•             ยอดขายออนไลน์รวม (GMV) ในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบาอยู่ที่ 8,119 ล้านหยวน หรือ 1,239 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 39,397 ล้านบาท) สำหรับปีงบประมาณ 2564 ซึ่งยอดขายหลักมาจากตลาดค้าปลีกจีน ตลาดค้าปลีกต่างประเทศและแพลตฟอร์มบริการท้องถิ่น มูลค่า 7,494 ล้านหยวน หรือ 1,144 ล้านเหรียญสหรัฐ  (ประมาณ 36,370 ล้านบาท)

•             กำไรจากการดำเนินงาน (Income from operations) อยู่ที่ 89,678 ล้านหยวน หรือ 13,688 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 435,203 ล้านบาท) ลดลง 2% เป็นผลมาจากการจ่ายค่าปรับตามกฎหมายป้องกันการผูกขาด (Anti-monopoly Law) และเงินชดเชยที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นที่เป็นพนักงานของแอนท์ กรุ๊ป กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITDA) ที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า เป็น 196,842 ล้านหยวน หรือ 30,044 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 955,402 ล้านบาท) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้ว (Adjusted EBITA) ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น  170,453 ล้านหยวน หรือ 26,016 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 827,396 ล้านบาท) 

•             กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้วจากธุรกิจหลัก (Adjusted EBITA for core commerce) อยู่ที่ 194,512 ล้านหยวน หรือ 29,688 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 944,245 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมที่ปรับปรุงแล้วจากธุรกิจหลักบนมาร์เก็ตเพลส (marketplace-based core commerce adjusted EBITA) ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (a non-GAAP measurement) เพิ่มขึ้น 17% เป็น 229,134 ล้านหยวน หรือ 34,973 ล้านเหรียญสหรัฐ  (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) เริ่มจากไตรมาสนี้ อาลีบาบาได้ขยายโครงการธุรกิจใหม่ๆ ที่แตกออกมาเพื่อแสดงให้เห็นความคืบหน้าด้านการลงทุนทางยุทธศาสตร์และเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจหลักบนมาร์เก็ตเพลส ธุรกิจเหล่านี้ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจนิวรีเทล (เฟรชฮิปโป ทีมอลล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต มาร์เก็ตเพลสชุมชน และ Taoxianda) แพลตฟอร์มบริการท้องถิ่น  ลาซาด้า  เถาเป่า- ดีลส์  เครือข่ายไช่เหนียว และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งเป็นภาคส่วนที่เรามองเห็นโอกาสในการลงทุนเพิ่ม โดยสถิติตัวเลขก็บ่งชี้ว่าธุรกิจเหล่านี้กำลังเติบโต

•             กำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญ (Net income attributable to ordinary shareholders) อยู่ที่ 150,308 ล้านหยวน หรือ 22,941 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 729,776 ล้านบาท) กำไรสุทธิ (Net income) อยู่ที่ 143,284 ล้านหยวน หรือ 21,869 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 696,520 ล้านบาท) เนื่องมาจากค่าปรับตามกฎหมายป้องกันการผูกขาดและค่าใช้จ่ายชดเชยที่กล่าวไปข้างต้น หากไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวและค่าใช้จ่ายอื่นบางประการ กำไรสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (Non-GAAP net income) จะอยู่ที่ 171,985 ล้านหยวน หรือ 26,250 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 835,033 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

•             กำไรหุ้นปรับลดในตลาดหุ้นสหรัฐ (Diluted earnings per ADS) อยู่ที่ 54.70 หยวน หรือ 8.35 เหรียญสหรัฐ  (ประมาณ 265 บาท) กำไรปรับลดต่อหุ้น (Diluted earnings per share) อยู่ที่ 6.84 หยวน หรือ 1.04 เหรียญสหรัฐ หรือ 8.09 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 33 บาท) สาเหตุหลักมาจากค่าปรับตามกฎหมายป้องกันการผูกขาดและค่าใช้จ่ายชดเชยในส่วนของการดำเนินงาน หากไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนดังกล่าวและผลกระทบส่วนอื่น กำไรปรับลดต่อหุ้นที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไปในตลาดหุ้นสหรัฐ (Non-GAAP diluted earnings per ADS) จะอยู่ที่ 65.15 หยวน หรือ 9.94 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 316 บาท) เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และกำไรปรับลดต่อหุ้นที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (Non-GAAP diluted earnings per share) อยู่ที่ 8.14 หยวน หรือ 1.24 เหรียญสหรัฐ หรือ 9.63 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 40 บาท) เพิ่มขึ้น 23% จากปีก่อนหน้า

•             กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (Net cash provided by operating activities) อยู่ที่ 231,786 ล้านหยวน หรือ 35,378 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) และกระแสเงินสดสุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานบัญชีทั่วไป (Non-GAAP free cash flow) อยู่ที่ 172,662  ล้านหยวน หรือ 26,353  ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 837,927 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า