นางสาวกนกพร ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ WeTV ประจำประเทศไทย บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กีฬา เป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่คนไทยนิยมเป็นอย่างมาก โดยประเภทกีฬาที่คนไทยติดตามชม และเชียร์มากเป็นอันดับต้นๆ และสามารถสร้างโมเมนต์การมีส่วนร่วมต่างๆ ให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ชมในวงกว้างได้อยู่เสมอ คือ กีฬาฟุตบอล โดยเฉพาะ ‘ฟุตบอลทีมชาติไทย’ ที่ทุกครั้งที่มีการแข่งขันแมตช์สำคัญจะสามารถปลุกกระแสเชียร์ไทยให้กลายเป็นวาระแห่งชาติได้เสมอ อีกทั้ง ยังเป็นกีฬาที่มีฐานคนดูในวงกว้างครอบคลุมทั่วประเทศ ทุกเพศทุกวัย ทั้งคนทั่วไป และฮาร์ดคอร์แฟน”
“จากกระแสความนิยมเหล่านี้ WeTV ในฐานะผู้นำการให้บริการวิดีโอสตรีมมิงแอปพลิเคชัน เล็งเห็นโอกาสในการขยายฐานผู้ใช้งานไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับแพลตฟอร์มทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้งาน และการใช้เวลาดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม จึงได้เจรจาตกลงซื้อสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี จากไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เพื่อถ่ายทอดสด 3 แมตช์สำคัญที่ ‘ทีมชาติไทย’ จะลงแข่งเพื่อลุ้นผ่านเข้าสู่รอบถัดไปโดยเป็นการรับสัญญาณถ่ายทอดสดจากไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เพื่อออกอากาศในรูปแบบ Online LIVE Streaming บนแอปพลิเคชัน WeTV เอาใจแฟนบอลทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ฟีเจอร์คอมเมนต์วิ่ง (Flying Comment) ที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมการแข่งขัน และสร้างโมเมนต์การร่วมลุ้น และส่งกำลังใจเชียร์ทีมชาติไทยไปด้วยกันบนแพลตฟอร์ม WeTV”
ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี ประกอบด้วย ทีมชาติไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยโปรแกรมการถ่ายทอดสดการแข่งขันทั้ง 3 แมตช์ของ “ทีมชาติไทย” มีรายละเอียดดังนี้
• วันที่ 3 มิถุนายน 2564: ไทย พบ อินโดนีเซีย เริ่มถ่ายทอดสด เวลา 23.10 น.
• วันที่ 7 มิถุนายน 2564: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบ ไทย เริ่มถ่ายทอดสด เวลา 23.10 น.
• วันที่ 15 มิถุนายน 2564: ไทย พบ มาเลเซีย เริ่มถ่ายทอดสด เวลา 23.10 น.
นอกจากนี้ WeTV ยังได้เตรียมนำคอนเทนต์เสริมต่างๆ ที่เกี่ยวกับ 3 แมตช์ของฟุตบอลทีมชาติไทยจากไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ทยอยลงในแพลตฟอร์ม อาทิ ช่วงวิเคราะห์เกมการแข่งขัน (ก่อนและหลังแมตช์) ไฮไลต์จากการแข่งขันในแต่ละแมตช์ เป็นต้น พร้อมเปิดให้สมาชิกผู้ใช้งานสามารถชมการแข่งขันย้อนหลังแบบต่อเนื่องเต็มแมตช์ ครบทั้งสามแมตช์ได้แบบจุใจอีกด้วย
“เราเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของสปอร์ตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และอยู่ในกระแส ผสานกับความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์ม WeTV ที่มอบความรวดเร็ว ราบรื่น และสะดวกสบายในการเข้าถึงคอนเทนต์ ตลอดจนการสร้างประสบการณ์ร่วมผ่านฟีเจอร์ต่างๆ ให้กับแฟนบอลชาวไทย และคนทั่วไปที่ชื่นชอบและติดตามเชียร์ทีมชาติไทย สิ่งเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ WeTV ได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ใช้งานทั่วประเทศมากขึ้น” นางสาวกนกพร กล่าวสรุป