รัฐบาล เดินหน้าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก

04 ก.ค. 2564 | 07:07 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ค. 2564 | 14:19 น.

เสริมทัพส่งออกโต! รัฐบาลเดินหน้าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก ระบุ ซีรี่ย์วายและเกมมาแรงในภูมิภาค คาดนำไปสู่การซื้อขายผลงานของผู้ประกอบการไทยมูลค่ารวมประมาณ 3.6 พันล้านบาท

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้การชะลอตัวของสภาพเศรษฐกิจในประเทศ แต่ตัวเลขการส่งออกมีการขยายตัวต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี 64  โดยเฉพาะภาคการเกษตร ในขณะที่อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมดาวเด่นที่มีศักยภาพส่งออกสูงและเป็นที่นิยมในภูมิภาค มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 10  ในปี 63 คิดเป็นมูลค่ารวมมากว่า 3 หมื่นล้านบาท

รัฐบาล เดินหน้าอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทยสู่ตลาดโลก

ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าขับเคลื่อนสู่เป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ครอบคลุม ภาพยนตร์/ซี่รี่ย์ออนไลน์ แอนิเมชั่น เกม การ์ตูน และคาแรคเตอร์ เป็นต้น โดยกำหนดแผนดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาผู้ประกอบการทั้งด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างแรงบันดาลใจ การขยายตลาดต่างประเทศ รวมถึงการขายผลงานและเจรจาผ่านระบบออนไลน์ ที่คาดว่าจะนำไปสู่การซื้อขายผลงานของผู้ประกอบการไทย มูลค่ารวมประมาณ 3.6 พันล้านบาท ตลาดที่มีศักยภาพของผู้ประกอบการไทย คือ ตลาดญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน เนื่องจากมีอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ขนาดใหญ่ทั้งด้านแอนิเมชั่นและคาแรคเตอร์ และมีแนวโน้มที่จะว่าจ้างผู้ประกอบการต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการจ้างผลิตและร่วมกันผลิต

 

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์จัดโครงการส่งเสริมผู้ผลิตคอนเทนต์ซี่รี่ย์วาย (ซีรี่ย์ละครเกี่ยวกับความรักวัยรุ่นเพศเดียวกัน) เมื่อ 29 – 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการคอนเทนต์วายของไทยเข้าร่วมจำนวน 10 ราย เกิดการนัดหมายเจรจาธุรกิจรวมกว่า 158 นัดหมาย ทำรายได้ทะลุเป้ากว่า 360 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีหลัง ผลงานของผู้ประกอบการไทย ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดต่างประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และลาตินอเมริกา มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 พันล้านบาท ถือได้ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตคอนเทนท์ซีรีย์วายระดับโลกและเป็นอันดับหนึ่งในเอเซีย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีผู้ชมเพิ่มขึ้นกว่า 328% ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ

นางสาวรัชดา ยังกล่าวถึงอุตสาหกรรมเกมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ด้วยว่า กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วตามการพัฒนาของเทคโนโลยี และประเทศไทยไทยถือเป็นที่หนึ่งในอาเซียน มีโอกาสขยายสู่ตลาดโลก ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) รายงานว่า ปีที่แล้ว อุตสาหกรรมเกมในประเทศ ขยายตัวสูงขึ้น14-15% คิดเป็นมูลค่า 29,000 ล้านบาท เนื่องจากวิกฤติโควิด คนอยู่บ้านมากขึ้น เกมเข้ามาช่วยแก้เหงาและคลายเครียด โดยสำนักงานฯ ได้เดินหน้าและจับมือกับสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย เพื่อพัฒนาศักยภาพนักพัฒนาเกมไทย และขับเคลื่อนงานภายใต้แผนการส่งเสริมระบบนิเวศของอุตสาหกรรมเกมไทย ปี2564- 2565 อาทิ จัดตั้งบริษัทเอเย่นต์ส่งออกเกมไทยไปต่างประเทศ สร้างศูนย์บ่มเพาะสตาร์ตอัพเกมใน “ไทยแลนด์ ดิจิทัล วัลเลย์” ที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd)

 

“อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกมาก รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการไทยมีพื้นที่ในตลาดระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมามีความร่วมือภาครัฐและเอกชน สร้างกลไกส่งเสริมและการพัฒนาบุคลากร เพื่อผู้ประกอบการมีศักยภาพทั้งการผลิตและการเข้าถึงตลาดมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ผู้ประกอบการไทยควรตระหนักว่าตนเองมีศักยภาพสามารถไปไกลถึงตลาดระดับโลกได้ เพราะขณะนี้ก็มีศักยภาพสูงเป็นผู้นำในอาเซียนและระดับต้นของภูมิภาค การเจาะตลาดสากลจึงเป็นสิ่งที่ไม่เกินความสามารถของคนไทยอย่างแน่นอน” นางสาวรัชดา กล่าว