นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน หรือ เอไอเอส กล่าวในเวทีเสวนา “หุ้น Big Cap เย้ายวนใจ หรือไร้เสน่ห์” จัดโดยหนังสือพิมพ์”ฐานเศรษฐกิจ” ว่า หลายคนรู้จัก เอไอเอส ในฐานะผู้นำด้านโทรคมนาคม และ หุ้นปันผลดีต่อเนื่อง เอไอเอส ดำเนินธุรกิจมา 31 ปี กำลังก้าวสู่ปีที่ 32 โดย 25 ปีแรกเราดำเนินธุรกิจภายใต้สัญญาสัมปทาน มีการจ่ายค่าสัมปทานไปแล้ว 8 แสนล้านบาท และมีปันผล 3% -4% และ 5% ตามลำดับ โดยเอไอเอสได้ประกาศทิศทางธุรกิจมุ่งไปสู่ ดิจิทัล เซอร์วิส โพรวายเดอร์ รองรับการทำงาน การใช้ชีวิตของผู้คน
โดย เอไอเอส วางยุทธศาสตร์ธุรกิจไว้ 3 แกน โดยแกนแรก คือ การให้ บริการโมบาย ที่เป็นคอร์บิสซิเนส โดยยังมีความแข็งแกร่ง เอเอสไอส ยังคงทุ่มเทเรื่อง 5G มีการขยายการลงทุนต่อเนื่อง หลายคนมอง 5G เป็นเรื่องความเร็วสูงขึ้นกว่า 3G และ 4G แต่ไม่ใช่แค่ความเร็ว มีเรื่องของความหน่วง การทำแมส สเกล สิ่งเหล่านี้ จะพลิกโฉมการดำเนินชีวิตของคน ทำให้เกิดบริษัทใหม่ๆ เกิดแอพใหม่ ที่ในอดีต 3G และ 4G ทำไม่ได้ เกิดแมสทรานซิส เช่น รถยนต์ไร้คนขับ ผ่าตัดทางไกล ต้องใช้ความแม่นยำ และความหน่วงต่ำ โดยมีโอกาสเกิดรายได้ 4 หมื่นล้าน จากตลาดเกิดใหม่ โดย เอไอเอส ยังมีรายได้จากคอร์บิสซิเนส แสนกว่าล้านบาท มีกำไรปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท โดยยังการันตีเรื่องปันผลจากคอร์บิสซิเนส 3-5% ขึ้นอยู่กับราคาหุ้น
ส่วนธุรกิจอีก 2 แกน ที่เป็นความหวัง แกนที่เกิดขึ้นแล้ว คือ เอไอเอสไฟเบอร์และ เอ็นเตอร์ไพร์ส มียอดการเติบโตปีละ 20% แต่ฐานลูกค้ายังไม่ใหญ่มากนัก เนื่องจากเพิ่งเข้ามาในตลาด แต่ตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ส มีขนาดใหญ่มูลค่า 3 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงมีโอกาสสร้างการเติบโตอีกจำนวนมาก ซึ่งหากสามารถเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาด 10% เท่ากับมีรายได้ใหม่เกิดขึ้น 3 หมื่นล้านบาท
และแกนที่เอไอเอส คาดหวังระยะยาว คือ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม โดยเอไอเอสมีฐานลูกค้า 42 ล้านราย มีข้อมูลฐานลูกค้ามากมาย ช่วยพาสเนอร์ของเรา วันนี้ถ้าดิจิทัลเซอร์วิส สำเร็จสร้างเกิดรายได้มหาศาล โดยที่ผ่านมาเอไอเอสเดินหน้าร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ เช่น เอไอเอสเพลย์ ร่วมดิสนีย์ ร่วมมือแบงก์กรุงไทยช่วยร้านค้ารายย่อย ร่วมทุนกับเอสซีบี เปิดเอไอเอสซีบี ซึ่ง เป็นการร่วมมือเพื่อนำดาต้ามาใช้ช่วยพาร์ทเนอร์ นำเสนอสินค้าและบริการของพาร์ทเนอร์ของเราไปสู่มือลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าให้เติบโต ที่สำคัญสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ถือป็น Big jump ถ้าทำสำเร็จ สร้างให้เกิดรายได้มหาศาลเกิดขึ้นมา โดยประมาณการณ์ว่าอุตสาหกรรมต่างๆ มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท หากเอไอเอสร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ และทำสำเร็จ มีส่วนแบ่งรายได้จากพาร์ทเนอร์ 10% เท่ากับมีรายได้เพิ่มแสนล้านบาท