นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด หรือ LINE BK เปิดเผยว่า จากการเปิดให้บริการมาแล้ว 1 ปี เราเห็นถึงแนวโน้มของคนไทยในการเปิดรับบริการทางดิจิทัลใหม่ๆ อย่าง Social Banking จากจำนวนผู้ใช้บริการ LINE BK ที่ปัจจุบันมีมากกว่า 3.4 ล้านราย โดยมีหลายๆ ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโต อาทิ สถานการณ์โควิดที่ทำให้หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านเกือบตลอด 24 ชั่วโมง ร้านค้าร้านอาหารเปิดให้บริการเฉพาะช่องทางออนไลน์ ทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายหรือการทำธุรกรรมทางการเงินของผู้บริโภคย้ายมาอยู่บนโลกออนไลน์เกือบ 100% เป็นโอกาสให้ผู้บริโภคหลายๆ คนได้ลองเปิดใจใช้บริการ LINE BK โดยเฉพาะบริการวงเงินให้ยืม สินเชื่อดิจิทัลใน LINE ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก
แม้จะเป็นความท้าทายที่ต้องนำเสนอบริการใหม่ท่ามกลางวิกฤติ อย่างไรก็ตาม LINE BK สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งนอกจากจำนวนผู้ใช้บริการที่สูงเกินเป้าที่ตั้งแล้ว บริการอื่นๆ ของ LINE BK ยังได้รับความสนใจอย่างมากดูได้จากข้อมูลการเปิดใช้งาน 4 บริการหลัก ได้แก่ บัญชีเงินฝาก 4 ล้านบัญชี บัญชีเงินออมดอกพิเศษ 1 แสนบัญชี บัตรเดบิต 1.8 ล้านบัตร และบริการวงเงินให้ยืมกว่า 437,000 บัญชี
สำหรับ 4 บริการหลักที่อยู่ในทุกส่วนชีวิตของคนไทย
บริการบัญชีเงินฝาก ในปีแรกมีลูกค้าเปิดบัญชีเงินฝากกับ LINE BK ถึง 4 ล้านบัญชี โดยมีธุรกรรมโอนเงินมูลค่ารวมกว่า 82,000 ล้านบาท พร้อมทั้งได้ช่วยแจ้งเตือนข้อมูลทางการเงินของลูกค้าผ่านบริการ LINE BK Alerts ไปแล้วกว่า 1 พันล้านครั้ง
นอกจากนี้หนึ่งในบริการที่ลูกค้าปลาบปลื้มเมื่อใช้งาน LINE BK คือ ซองเงินหรือสลิปแจ้งการโอนเงินดีไซน์น่ารักจาก LINE FRIENDS ที่มีทั้งซองข้อความทั่วไปใช้ได้ตลอด เช่น ขอบคุณ บอกรัก สุขสันต์วันเกิด วันแต่งงาน หรือแสดงความยินดี และซองที่ออกมาเพื่อเทศกาลพิเศษต่างๆ อาทิ ปีใหม่ ตรุษจีน วาเลนไทน์ วันพ่อ และวันแม่ เป็นต้น
บัญชีเงินออมดอกพิเศษ เป็นบริการที่ช่วยสร้างวินัยการออมเงินให้กับคนไทยด้วยระบบออมเงินอัตโนมัติ โดยลูกค้าแค่ตั้งเป้าหมายและระยะเวลาการออมที่ต้องการ รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% ต่อปีเมื่อฝากเงินครบ 12 เดือน หรือ 1.0% ต่อปีเมื่อฝากเงินครบ 6 เดือน ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา LINE BK ช่วยคนไทยเก็บเงินไปแล้วกว่า 1 แสนเป้าหมาย (หรือ 1 แสนบัญชี) โดยเป้าหมายในการเก็บเงินสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เก็บเงินเพื่อลูก เก็บเงินเพื่อความมั่งคั่ง และเก็บเงินเพื่อท่องเที่ยว
บัตรเดบิตทุกประเภทรวม 1.8 ล้านบัตร ส่วนใหญ่เป็นบัตรประเภทออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของคนที่ใช้ชีวิตอยู่บ้านในช่วงที่โควิด 19 แพร่ระบาด เน้นซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์แทนการออกไปร้านค้า โดยหมวดหมู่ที่ลูกค้าใช้จ่ายด้วยบัตรเดบิต LINE BK มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 อาหารและเครื่องดื่ม อันดับ 2 การผูกบัญชีกับ Wallet อันดับ 3 การซื้อสินค้าบนอีคอมเมิร์ซ และปิดท้ายด้วยสถิติน่ารักๆ กับดีไซน์บัตรเดบิตที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ หมี BROWN
บริการวงเงินให้ยืม เป็นบริการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย ลดขั้นตอนที่ยุ่งยากจากการขอสินเชื่อตามปกติ เปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีรายได้ประจำหรือมีรายได้ขั้นต่ำเพียง 7,000 บาท สามารถสมัครได้ ทั้งนี้ตลอด 1 ปี บริการวงเงินให้ยืมได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงได้ปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 437,000 บัญชี โดยมียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 21,000 ล้านบาท
จากความตั้งใจของ LINE BK ที่ต้องการเป็นหนึ่งในตัวช่วยแก่กลุ่มคนที่ไม่มีรายได้ประจำและผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่มีสลิปเงินเดือนให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น พบว่าสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของลูกค้า LINE BK เป็นกลุ่มอาชีพอิสระและอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดเกือบ 80%
พันธมิตรช่วยเติมเต็ม Ecosystem ให้สมบูรณ์
อีกส่วนสำคัญที่ทำให้คนไทยเปิดใจรับ LINE BK ซึ่งเป็นบริการน้องใหม่อย่างรวดเร็ว และทำให้สามารถเข้าไปอยู่ในทุกช่วงเวลาของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ คือ พันธมิตรผู้ให้บริการด้านต่างๆ ถึงวันนี้ LINE BK ได้จับมือกับพันธมิตรมากกว่า 10 ราย อาทิ VISA, Lazada, Agoda, Rabbit LINE Pay, LINE MAN และ dtac เป็นต้น ซึ่งทุกบริการล้วนช่วยให้การใช้ชีวิตบนออนไลน์ของลูกค้าลื่นไหลไม่สะดุดตลอด 24 ชั่วโมง
“ถึงก้าวแรกของ LINE BK จะเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ ที่เข้ามาอย่างไม่คาดคิดตลอดเวลา แต่จากความร่วมมือของทีมงานและพันธมิตรที่ดี ทำให้สามารถเดินหน้าธุรกิจตามที่วางแผนไว้ โดยภารกิจของเราต่อจากนี้คือมุ่งมั่นในการพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงเตรียมเปิดผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อช่วยเติมเต็มไลฟ์สไตล์การเงินในชีวิตประจำวันที่สะดวก ปลอดภัย และครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าตามคอนเซ็ปต์ เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ” นายธนา กล่าวปิดท้าย