คนไทยที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเงินจะใช้ทวิตเตอร์เพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดหุ้น เศรษฐกิจ และเทรนด์ล่าสุดของการออมและการลงทุน ตลอดจนสนใจและมีความรู้ในเรื่องการเงินต่างๆ และมักเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนาหัวข้อนี้อย่างต่อเนื่อง โดย 74% ของชาวทวิตภพเข้ามาใช้ทวิตเตอร์ทุกวัน และ 42% ใช้ทวิตเตอร์วันละหลายครั้ง นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแบรนด์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อช่วยตัดสินใจเรื่องของการออมและการลงทุน
การออมและการลงทุน คือเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย โดยข้อมูลจาก Brandwatch 2020-2021 ระบุว่า ชาวทวิตภพทวีตเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่า 70,000 ครั้งต่อวัน มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเข้ามาปรึกษาพูดคุยในเรื่องของการลงทุนในหุ้น รวมถึงสนับสนุนให้คนอื่นลองเริ่มลงทุนด้วย ชาวทวิตภพที่บริหารเงินได้อย่างเชี่ยวชาญ 41% อยากเห็น #WhatsHappening สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเข้ามาค้นหาข้อเสนอและคำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการวางแผนการออม การลงทุนในหุ้น และความเสี่ยงในการลงทุน ตลอดจนแบ่งปันเคล็ดลับและความสำเร็จของตัวเองบนทวิตเตอร์
ข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่า แบรนด์ควรให้ความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้อง เรียนรู้และทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการและอยากได้จากบทสนทนาบนทวิตเตอร์ ทวิตเตอร์พบว่าบรรดาผู้ที่มีความสนใจในเรื่องการออมและการลงทุนบนทวิตเตอร์ประเทศไทยนั้น 73% สนใจเรื่องดนตรี 68% สนใจเทคโนโลยี 67% สนใจการทำอาหาร และ 67% สนใจอาหารและเครื่องดื่ม จากข้อมูลเชิงลึกนี้เป็นโอกาสให้แบรนด์สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในบทสนทนากับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างสร้างสรรค์
คนไทยกำลังคาดหวังนวัตกรรมจากแบรนด์
การดิสรัปชั่นกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมทางการเงินและบทสนทนาเหล่านี้เกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ซึ่งแสดงถึงความต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จาก 94% คนไทยบนทวิตเตอร์อยากเห็นข้อมูลใหม่ๆ จากแบรนด์ทางการเงิน และผู้บริโภคชาวไทย มากกว่า 2 ใน 3 อยากเห็นผลิตภัณฑ์ บริการ และแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ โดย 34% อยากจะเห็นแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ ทั้งนี้เหตุผลอันดับหนึ่งที่ผู้คนเข้ามาใช้ทวิตเตอร์คือ “การได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่น่าสนใจ” เพราะฉะนั้นแบรนด์ที่เน้นเรื่องนวัตกรรมจะได้พบกับโอกาสใหม่ๆ ในการคอนเน็คกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน
ทวิตเตอร์คือชุมชนของผู้เชี่ยวชาญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินมากมายมักเข้ามาแบ่งปันความรู้ของตนเองบนทวิตเตอร์ และชาวทวิตภพให้คุณค่ากับความคิดเห็นของผู้อื่น ทวิตเตอร์จึงกลายเป็นสถานที่เพื่อให้ผู้คนได้เข้ามาเรียนรู้และติดตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงินได้ดียิ่งขึ้น และสามารถเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ คนที่มีชื่อเสียงในเรื่องนี้ได้ ซึ่งกลุ่มที่สนใจในเรื่องนี้ต่างค้นหารีวิวผลิตภัณฑ์ทางการเงินและมีส่วนร่วมในบทสนทนากับผู้อื่น แชร์ความคิดเห็นและไอเดีย รวมทั้งเสนอความคิดของตัวเองในทุกเรื่อง อาทิ เรื่องตลาดหุ้น ทิปส์ในการออม และคำแนะนำในการลงทุน
จากข้อมูลเชิงลึกของทวิตเตอร์พบว่าคนที่มีความรู้ความเข้าใจทางการเงินบนทวิตเตอร์ประเทศไทย 42% เชื่อใจการรีวิวผลิตภัณฑ์ออนไลน์ และ 41% ศึกษาความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ แบรนด์ ที่มีความเชี่ยวชาญจะเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายบนทวิตเตอร์ด้วยการให้คำแนะนำและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ และจะมองหาจุดยืนของตัวเองในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้เป็นอย่างดี
ชาวทวิตภพชอบค้นพบสิ่งใหม่
ทวิตเตอร์เป็นสถานที่ที่มีบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเงินทองเกิดขึ้นและแบรนด์ทางการเงินก็สามารถเชื่อมต่อกับผู้บริโภคซึ่งมีตั้งแต่บุคคลทั่วไปที่สนใจด้านการเงินส่วนบุคคล คนที่ศึกษาด้านการเงินเป็นงานอดิเรก และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน คนไทยบนทวิตเตอร์มีทัศนคติของการค้นพบสิ่งใหม่ พวกเขาชอบการเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ลองสิ่งใหม่และพูดคุยกันถึงเรื่องนั้น บทสนทนาในเรื่องคริปโตเคอร์เรนซี NFTs และเทรนด์ล่าสุดในการลงทุนเป็นหัวข้อที่มีการพูดคุยกันบนทวิตเตอร์ในทุกๆ วัน
แบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากบทสนทนา
อันดับแรกคือการรับฟัง ทุกวันจะมีบทสนทนาเรื่องการเงินที่หลากหลายจำนวนมากเกิดขึ้นบนทวิตเตอร์ประเทศไทย หากแบรนด์ต่างๆ ยอมรับฟัง ก็จะสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่มีความสำคัญกับผู้บริโภคได้มากขึ้น เมื่อแบรนด์เข้าไปร่วมวงสนทนาก็ควรนึกถึงโทนเสียง ภาษาที่ใช้ วิธีการสื่อสารรวมไปถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง ชาวทวิตภพไม่ได้เหมือนกันหมด และไม่ใช่ว่าทุกคนต้องการในสิ่งเดียวกัน ภาษาคือสิ่งที่สำคัญในการสื่อสาร หากแบรนด์กระโดดเข้าไปในบทสนทนาของงานศิลปะดิจิทัลอย่าง NFTs โดยที่ไม่สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับบทสนทนานั้นๆ ได้ แบรนด์ควรรับฟังผู้คนต่อไป จนกว่าจะมีหัวข้อหรือเรื่องที่เป็นประโยชน์และสามารถเพิ่มลงในบทสนทนานั้นๆ ได้