นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ครั้งที่ 2/2565 วันนี้ (28 มี.ค.65) ว่าได้มีการนำเสนอความคืบหน้าในการทางานบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากมิจฉาชีพและอาชญากรรมออนไลน์
โดยหนึ่งในนั้นคือ การแก้ปัญหาบัญชีม้า สกัดเส้นทางการรับและโอนเงินในขบวนการของมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจะลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากอาชญากรรมเหล่านี้ได้มาก
โดยมีการนำเสนอรายงานต่อที่ประชุมถึงผลการดำเนินการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ในรอบปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน จำนวนทั้งสิ้น 5,517 คดี ผู้ต้องหา 6,348 คน และได้มีการระดมกวาดล้างจับกุมผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปใช้ในการกระทำผิดผ่านทางออนไลน์ (บัญชีม้า) แล้วจำนวน 344 ราย (บัญชี) มีมูลค่าความเสียหายกว่า 869 ล้านบาท
โดยเรียงลำดับมูลค่าความเสียหาย ดังนี้ อันดับ 1 การหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน ครอบคลุมทั้งการหลอกลวงโอนเงิน (Scam/Call Center) และแชร์ลูกโซ่หลอกให้ลงทุนทางออนไลน์ ความเสียหายกว่า 693 ล้านบาท อันดับ 2 การพนันออนไลน์ ความเสียหาย 154 ล้านบาท อันดับ 3 คดีความตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท อันดับ 4 การหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ความเสียหายประมาณ 8 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 65 ในส่วนเว็บพนันออนไลน์ ได้มีคำสั่งศาลปิดกั้นแล้ว 742 ยูอาร์แอล นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ โดยมีพลโท สุชาติ แดงประไพ ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เป็นประธาน ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินการด้านป้องกันปราบปรามและแก้ไขอาชญากรรมทางออนไลน์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการบูรณาการ
สำหรับคณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ 1. ปฏิบัติการและบูรณาการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ 2. ประสานงานหรือเชิญทั้งบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ในการดำเนินการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ และดำเนินการอื่นใด เพื่อให้การดำเนินการของคณะอนุกรรมการฯ เกิดผลเป็นรูปธรรม
3.แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อช่วยคณะอนุกรรมการทำงานตามความจำเป็น และ 4. ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ หรือประธานกรรมการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์มอบหมาย