ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สำหรับความสำเร็จนักวิทยาศาสตร์ทีมเยาวชนประเทศไทย กวาด 10 รางวัลโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติ”Regeneron International Science and Engineering Fair (Regeneron ISEF) 2022ซึ่งเยาวชนไทยกวาดรางวัลระดับโลกมาถึง 10 รางวัล มูลค่ารวม66,000 เหรียญสหรัฐ จากการแข่งขันในรายการRegeneron ISEF2022จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 - 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา โดยปีนี้มีโครงงานเข้าร่วมประกวด 1,410 ผลงานจากนักเรียน 1,750 คน จาก 63 ประเทศและมลรัฐต่างๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่ผ่านมาสวทช. ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเรื่องการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้มีความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีส่งเสริมและกระตุ้นให้เยาวชนหันมาสนใจและเพิ่มพูนทักษะทางวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ในระดับนักเรียนเพื่อพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามนโยบายของกระทรวง อว. โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ผ่านการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Young Scientist Competition, YSC) ที่ สวทช. สนับสนุนตั้งแต่ปี 2542โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย6 มหาวิทยาลัยเครือข่ายที่ร่วมเป็นศูนย์ประสานงานภูมิภาคของโครงการฯ จัดประกวดโครงงานในสาขาวิชาต่างๆทั่วประเทศรวม 9 สาขา ให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 – 6 ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะความรู้ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นนวัตกรรมให้สังคมไทยเป็นสังคมฐานความรู้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยในครั้งล่าสุดโครงการการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ หรือ YSC ครั้งที่ 24มีจำนวนข้อเสนอโครงงาน 1,269 โครงงาน นักเรียน 3,094 คน จาก 160 โรงเรียน และผ่านการเฟ้นหาจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนภูมิภาค จนได้ผลงานรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคและผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ จำนวน 67 โครงงาน นักเรียน 164 คน จาก 47 โรงเรียน
“ในปีนี้ สวทช. และสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์คัดเลือก16 ทีม 35 คน จากการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ครั้งที่ 24 (Young Scientist Competition, YSC 2022) ดำเนินการโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และพันธมิตร ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และจากค่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์แห่งชาติ ประจำปี 2564 (Thai Young Scientist Festival, TYSF 2022)ดำเนินการโดย สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้การสนับสนุนจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ได้ร่วมกันส่งคณะเยาวชนไทยเข้าร่วมการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติ หรือRegeneron ISEF 2022ซึ่งถือเป็นเวทีที่มีความสำคัญด้านการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก เพื่อส่งเสริมความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีการจัดแข่งขันต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีมาถึง 72 ครั้ง”
ทั้งนี้ผลปรากฏว่าทีมเยาวชนไทยคว้ารางวัลใหญ่ คือGrand Awards อันดับ 1สาขาเวชศาสตร์ปริวรรต (Translational Medical Science)จากโครงงาน “เครื่องมือช่วยวินิจฉัยความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีจากการตรวจหาไข่พยาธิใบไม้ตับจากภาพถ่ายอุจาระและการวิเคราะห์ข้อมูลแบบประเมินความเสี่ยงด้วยเทคโนโลยี AI” (BiDEx - A Bile Duct Cancer Analyzing Tool) จากทีม BiDEx จากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ผู้พัฒนา นางสาวนภัสสร หลิดชิววงศ์ นายกฤษ ฐิติจำเริญพร และนายวัฒนพงษ์ อุทธโยธา โดยมี นายกัมพล กันทะแก้ว และ นางรุ่งกานต์ วังบุญ อาจารย์ที่ปรึกษาอีกทั้งยังได้รับรางวัลสำคัญอีก1รางวัลที่ยกย่องให้กับโครงงานสร้างสรรค์ที่มีผลกระทบสูงในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 1.7 ล้านบาท (The Gordon E. Moore Award for Positive Outcomes for Future Generations of $50,000) โดยผลงานดังกล่าวเป็นผลงานที่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ระดับประเทศจากค่ายเวทีนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ครั้งที่ 17 ประจำปี 2564”
ดร.ณรงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีรางวัล Grand Awards อันดับที่ 1 อีกหนึ่งผลงาน ในสาขาชีววิทยาเชิงคำนวณและชีวสารสนเทศศาสตร์(Computational Biology and Bioinformatics)ได้แก่ โครงงาน “การทำนายความไวต่อยาด้วยเทคนิคผสมผสาน Graph Attention Networks เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการรักษาโรคมะเร็งด้วยการแพทย์แบบแม่นยำ โดยใช้โครงสร้างโมเลกุลยาร่วมกับข้อมูลทางเภสัชพันธุศาสตร์” ผู้พัฒนาได้แก่ นายภาวิต แก้วนุรัชดาสร นายณัฐวินทร์ แย้มประเสริฐ นายวุฒิพงศ์ จงเจริญสันติ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์จ.นครปฐม ซึ่งมี ดร.สาโรจน์ บุญเส็ง จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์และนายบัณฑิต บุญยฤทธิ์ จากสถาบันวิทยสิริเมธี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และยังมีทีมเยาวชนไทยคว้ารางวัลGrand Awards อันดับต่างๆ อีก 5 รางวัล ประกอบด้วย อันดับที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อม (Earth and Environmental Sciences) จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โครงงานการพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมแนวป่าชายเลนด้านในด้วยวัสดุปลูกลอยน้ำเลียนแบบลักษณะโครงสร้างของผลจิกทะเล ผู้พัฒนาได้แก่ นายจิรพนธ์ เส็งหนองเเบน และนายฐิติพงศ์ หลานเดช จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีนายขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
อันดับที่ 3 สาขาสัตวศาสตร์ (Animal Sciences) จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ โครงงานการเพิ่มศักยภาพในการเลี้ยงจิ้งหรีดด้วยแสงสีเพื่อลดอัตราการตายจากพฤติกรรมการสลัดขาทิ้ง ผู้พัฒนาได้แก่ นางสาวจรัสณัฐ วงษ์กำปั่น และนางสาวมาริสา อรรจนานนท์ จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีนายขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
อันดับที่ 4 จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ 1.โครงงานการพัฒนาต้นแบบชุดทดสอบเชิงสีชนิดใหม่สำหรับไวรัสทั้งชนิด DNA และ RNA เพื่อรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคตอย่างครอบคลุม (Sawasdee-AMP) สาขาชีวการแพทย์และสุขภาพ (Biomedical and Health Sciences)ผู้พัฒนาได้แก่ นายกุลพัชร ชนานำ นางสาวปกิตตา เกรียงเกษม และนายคุณัชญ์ คงทอง จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม โดยมี ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และ ดร.วันเสด็จ เจริญรัมย์ นักวิจัยไบโอเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
2.โครงงานการแกว่งของลูกตุ้มที่มีกระแสลมรบกวน สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์(Physics and Astronomy)ผู้พัฒนาได้แก่ นายวิชยุตม์ นาคะศูนย์ จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.นครศรีธรรมราช โดยมี นางซัลวาณีย์ เจ๊ะมะหมัด จากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และรศ. ดร.กฤษณะเดช เจริญสุธาสินี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
3.โครงงานการพัฒนาเข็มระดับไมโครเพื่อการตรวจวัดแบบ non-invasive ของสารครีเอตินินในของเหลวระหว่างเซลล์สู่นวัตกรรมการประเมินโรคไตแบบพกพา” สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์(Biomedical Engineering)ผู้พัฒนาได้แก่ นายพีรทัตต์ ลาภณรงค์ชัย และ นายธนพัฒน์ รีชีวะ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม โดยมี ดร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และ ดร.ธิติกร บุญคุ้ม นักวิจัยนาโนเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ‘จิกทะเล’ ซิวสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จากสมาคมวิทย์ฯเก่าแก่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ (Special Award) 2 รางวัลประกอบด้วยโครงงานการพัฒนาต้นแบบชุดทดสอบเชิงสีชนิดใหม่สำหรับไวรัสทั้งชนิด DNA และ RNA เพื่อรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคตอย่างครอบคลุม (Sawasdee-AMP)ผู้พัฒนาได้แก่ นายกุลพัชร ชนานำ นางสาวปกิตตา เกรียงเกษม และนายคุณัชญ์ คงทอง โดยมี ดุร.เกียรติภูมิ รอดพันธ์ โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม และ ดร.วันเสด็จ เจริญรัมย์ จากไบโอเทค สวทช. เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานดังกล่าวได้รับรางวัลที่ 1 สาขาการพัฒนาสุขภาพระดับโลก จาก USAID หรือ องค์การพัฒนาเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกาและ โครงงานการพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมแนวป่าชายเลนด้านในด้วยวัสดุปลูกลอยน้ำเลียนแบบลักษณะโครงสร้างของผลจิกทะเล” ได้รางวัลจาก Sigma Xi, The Scientific Research Honor Society สมาคมการวิจัยวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ผู้พัฒนาได้แก่ นายจิรพนธ์ เส็งหนองเเบน และนายฐิติพงศ์ หลานเดช จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี โดยมีนายขุนทอง คล้ายทอง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ โดยเป็นผลงานการวิจัยที่มีการบูรณาการวิทยาการจากหลากหลายสาขายอดเยี่ยม AI นับไข่พยาธิใบไม้ในตับ เพิ่มโอกาสพบมะเร็งระยะแรก
รศ. ดร.บุญโชติ เผ่าสวัสดิ์ยรรยง อุปนายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการเครื่องมือช่วยวินิจฉัยความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งท่อน้ำดีจากการหาตรวจหาไข่พยาธิใบไม้ในตับด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (BiDEx - A Bile Duct Cancer Analyzing Tool) ซึ่งได้รางวัลใหญ่ 1รางวัลมอบให้กับโครงงานสร้างสรรค์ที่มีผลกระทบสูงในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นต่อไป จากทีม BiDEx เยาวชนโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่นั้น ผลงานดังกล่าวใช้เว็บแอปพลิเคชัน BiDEx และเทคโนโลยี AI ในการตรวจหาไข่พยาธิใบไม้ตับแทนการใช้สายตามนุษย์ในภาพถ่ายอุจจาระจากกล้องจุลทรรศน์ และวิเคราะห์ความเสี่ยงการมีพยาธิใบไม้ตับซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเป็นมะเร็งท่อน้ำดี ทำให้สามารถรู้ผลการตรวจได้เร็วขึ้น 83.33% ช่วยให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อพยาธิเข้ารับการรักษาในระบบได้รวดเร็วและทันเวลา นำไปสู่การป้องกันและลดโอกาสการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งท่อน้ำดี
“ทั้งนี้ขอแสดงความยินดีกับเยาวชนไทยทั้ง 16 ทีม ที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในการแข่งขันโครงงานวิทย์ฯ ระดับโลกในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์อันมีค่าที่หาไม่ได้ง่าย ๆ ในการแข่งขันในเวทีระดับโลก และขอแสดงความยินดีกับเยาวชนไทยทุกทีมที่ได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ หวังว่าเยาวชนทุกคนจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ความรู้จากการประกวดในครั้งนี้ ซึ่งหวังว่าโครงงานที่เยาวชนได้พัฒนาขึ้นจะถูกต่อยอดและถูกนำมาใช้งานจริงเพื่อพัฒนาประเทศของเราต่อไปในอนาคตซึ่งการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมสำหรับเยาวชนระดับโลก Regeneron ISEF 2022 ถือเป็นเวทีการประกวดโครงงานด้านวิทยาศาสตร์ที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก การผนึกกำลังของสมาคมวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวง อว. โดย สวทช. วช. และ อพวช. และภาคเอกชนโดยธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ร่วมกันสนับสนุนผลงานของเด็กไทยให้ออกไปสู่สายตาระดับโลก และยังสามารถได้รับรางวัลมากกว่า 10 รางวัลในครั้งนี้