วช.จับมือ คพ. ดึงประโยชน์งานวิจัย-นวัตกรรม สางปัญหาสิ่งแวดล้อม

20 มิ.ย. 2565 | 10:07 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2565 | 17:15 น.

วช.-คพ. ดันประโยชน์งานวิจัย-นวัตกรรม หวังสางปัญหาสิ่งแวดล้อม ฟากคพ.ลุยจัดตั้ง ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศแบบบูรณาการ เล็งพัฒนาแอพพลิเคชันบัญชาการการดับไฟป่า ลดฝุ่น PM 2.5

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จัดพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการศึกษาวิจัยในประเด็นการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ อากาศและขยะ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการผลักดันนโยบายที่สำคัญและเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม บนฐานความร่วมมือทางวิชาการด้วยการใช้ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยขยายขอบเขตบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง วช. และ คพ. ให้ครอบคลุมปัญหามลพิษทางน้ำ อากาศ และขยะ 

 

 


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า คพ. และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” แบบบูรณาการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยจัดตั้ง ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ หรือ ศกพ. เพื่อทำหน้าที่ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย และมีการพัฒนาระบบพยากรณ์ฝุ่นละอองล่วงหน้า 7 วัน เพื่อแจ้งเตือนประชาชน พัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจ รวมถึงการพัฒนาและใช้งานแอพพลิเคชันบัญชาการการดับไฟป่า เนื่องจากฝุ่น PM2.5 เป็นทั้งมลพิษปฐมภูมิ ที่เกิดจากการปล่อยโดยตรงจากแหล่งกำเนิด และ PM2.5 ทุติยภูมิจากการรวมตัวของสารตั้งต้นต่างๆ จึงจำเป็นต้องใช้องค์ความรู้ที่หลากหลายเพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โครงการวิจัยฯ เพื่อศึกษาการระบายและสารตั้งต้นที่ทำให้เกิดอนุภาค PM2.5 ทุติยภูมิ จะมีประโยชน์ต่อแนวทางการจัดการคุณภาพอากาศได้อย่างเหมาะสมและสร้างความตระหนักให้กับชุมชนผู้อยู่อาศัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ได้
วช.จับมือ คพ. ดึงประโยชน์งานวิจัย-นวัตกรรม สางปัญหาสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ คพ. เล็งเห็นความสำคัญของการเชื่อมโยงข้อมูลทางวิชาการเพื่อติดตามป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมทางน้ำ อากาศ และขยะ  สำหรับประเทศไทย ด้วยการใช้ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม บนฐานความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา โดย คพ. จะเดินหน้าร่วมมือกับภาคีนักวิจัย และสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อให้งานวิจัยตอบโจทย์ของหน่วยงานและยกระดับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งในระดับประเทศและในท้องถิ่น และจะนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อกำหนดนโยบาย/มาตรการการติดตามป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ อากาศ และขยะต่อไป

 

 


ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมตามแผนงานสำคัญของประเทศ ภายใต้กรอบการวิจัยและนวัตกรรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นการวิจัยเชิงรุก ด้วยการประชุมระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การกำหนดแผนงานวิจัยตอบโจทย์ผู้ใช้ประโยชน์ตามความต้องการ และใช้กลไกความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง วช. กับหน่วยงานต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนผลผลิตและผลสำเร็จจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย รวมทั้งมีการต่อยอด ขยายผลกับหน่วยงานผู้ใช้ประโยชน์เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ทราบถึงแนวทางการจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการยกระดับผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสู่การนําผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ (Research Utilization) อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

วช.จับมือ คพ. ดึงประโยชน์งานวิจัย-นวัตกรรม สางปัญหาสิ่งแวดล้อม
 

ขณะเดียวกันวช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมตามแผนงานสำคัญของประเทศ ภายใต้กรอบการวิจัยและนวัตกรรมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นการวิจัยเชิงรุก ด้วยการประชุมระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำสู่การกำหนดแผนงานวิจัยตอบโจทย์ผู้ใช้ประโยชน์ตามความต้องการ และใช้กลไกความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง วช. กับหน่วยงานต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนผลผลิตและผลสำเร็จจากผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปสู่การใช้ประโยชน์ (Research Utilization) ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการวิจัยและนวัตกรรม

วช.จับมือ คพ. ดึงประโยชน์งานวิจัย-นวัตกรรม สางปัญหาสิ่งแวดล้อม

 

นอกจากนี้ วช. และ คพ. มีความร่วมมือกันในการผลักดันการใช้ประโยชน์จากการศึกษาวิจัยเพื่อประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหา PM2.5 มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 โดย คพ. ร่วมกับเครือข่ายนักวิจัยในประเทศไทย จัดทำโครงการวิจัยต่าง ๆ เพื่อการแก้ไขปัญหา PM2.5 ทั้งในเชิงการบริหารจัดการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานจาก วช. มาอย่างต่อเนื่อง

วช.จับมือ คพ. ดึงประโยชน์งานวิจัย-นวัตกรรม สางปัญหาสิ่งแวดล้อม

"ในปีนี้จึงเห็นพ้องร่วมกันขยายขอบเขตในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านการศึกษาวิจัยให้ครอบคลุมประเด็นการติดตามป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำ อากาศ และขยะ เพื่อแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นร่วมกันในการสนับสนุนการดำเนินงานแผนงานวิจัยด้านการพัฒนาและเร่งแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการใช้วิทยาศาสตร์ การวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม อย่างบูรณาการ เชื่อมโยงผลผลิตเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล"