นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ รับข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความห่วงใยต่อเด็กและเยาวชน กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าในขณะนี้มีการจำหน่ายสื่อลามกอนาจารผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย
ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์มาโดยตลอด และได้ดำเนินมาตรการในการป้องกันด้วยการสร้างการตระหนักรู้ในการใช้สื่อออนไลน์อย่างสร้างสรรค์ ชี้ให้เห็นถึงอันตรายและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและวิธีการในการรับมือแต่ละสถานการณ์
รวมทั้งจัดให้มีหน่วยงานรับแจ้งเบาะแสและให้คำปรึกษาเมื่อประชาชนพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์ ควบคู่ไปกับเข้มงวดในการปราบปรามด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ภายใต้หลักสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงสื่อบนโลกออนไลน์
ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เมื่อตรวจพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในลักษณะอันลามกอนาจาร กระทรวงดิจิทัลฯ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฯ เพื่อให้มีคำสั่งระงับการเผยแพร่ หรือ ลบข้อมูลออกจากระบบฯ ได้ และผู้นำเข้าหรือส่งต่อยังต้องได้รับโทษตามกฎหมายด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ทุกคนสามารถร่วมกันดูแลสังคมได้ เมื่อพบเนื้อหาที่เห็นว่าไม่เหมาะสม โดยเฉพาะสื่อลามก อนาจาร ยาเสพติด หรือ เนื้อหาที่มีความรุนแรง สามารถแจ้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผ่านช่องทางที่ผู้ให้บริการจัดเตรียมไว้ได้ทันที เพื่อที่ผู้ให้บริการจะได้ลบเนื้อหานั้นออกจากระบบได้ เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วเนื้อหาเหล่านี้จะผิดต่อมาตรฐานการให้บริการของแพลตฟอร์มอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 1212 หรือ เฟซบุ๊กเพจ อาสา จับตา ออนไลน์ หรือ m.me/DESmonitor ได้ตลอด 24 ชั่วโมง