วันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) แถลงการจัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 ( Thailand Research Expo 2022 )” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคม 2565 ภายใต้แนวคิด“วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”
โดยการจัดงานในปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดงาน ฯ ในวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 เวลา14.30 น.
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 (Thailand Research Expo 2022)” ขึ้นเป็นปีที่ 17 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งการวิจัยไทย” และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงพระมหากรุณาธิคุณต่องานวิจัยไทย
งานดังกล่าวถือเป็นเวทีระดับชาติ ในการนำเสนอความก้าวหน้าของผลงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีศักยภาพพร้อมใช้ประโยชน์ และเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริม ให้เกิดการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ รวมถึงเชื่อมโยงการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนำงานวิจัยไปใช้พัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งเชิงวิชาการ นโยบาย สังคม ชุมชน พาณิชย์และอุตสาหกรรม
“งานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ จัดขึ้นเป็นปีที่17 โดยความมุ่งมั่นตั้งใจของเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ทางวช.ภายใต้กระทรวงอว.มีความตั้งใจ ในการทำให้เวทีนี้เป็นเวทีที่ทำให้เกิดการนำผลสำเร็จจากงานวิจัย มาทำให้เห็นภาพว่า ทุกเม็ดเงินการลงทุนจากการวิจัย และนวัตกรรมที่ได้ใช้จ่ายหรือลงทุนในแต่ละปี สามารถเกิดผลงานที่ตอบโจทย์ ในเรื่องของการพัฒนาประเทศในหลากหลายรูปแบบ แก้ไขปัญหาและช่วยให้คุณภาพชีวิต สภาพเศรษฐกิจและสังคมดีขึ้น อยากให้ทุกคนให้กำลังใจนักวิจัย และมาช็อปผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นรวมถึงการประชุมในประเด็นท้าทายใหม่ ๆ ที่อยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม "
สำหรับการจัดงานในปีนี้ จะมีการนำเสนอผลงานวิจัย จากเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ กว่า 700 ผลงาน ใน 5 ประเด็นหลัก คือ
1.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น การพัฒนาระบบเศรษฐกิจบีซีจี (BCG) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เอไอ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ระบบราง ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจฐานนวัตกรรมขนาดใหญ่
2.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เช่น การพัฒนาสังคมสูงวัย การพัฒนาเมืองน่าอยู่ สังคมไทยไร้ความรุนแรง และการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ
3.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เช่น นวัตกรรมการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ทั้งการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรค การสร้างความมั่นคงทางด้านสุขภาพและสาธารณสุข และการเตรียมการเพื่อรองรับสถานการณ์วิกฤตด้านสาธารณสุขในอนาคต
4. งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต ครอบคลุมงานวิจัยและนวัตกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย (First S-curve) และอุตสาหกรรมใหม่ (New S-curve) และ
5.งานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์เชิงการพัฒนาพื้นที่ ครอบคลุมงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีการนำไปใช้ประโยชน์เชิงนโยบาย เชิงพาณิชย์ เชิงชุมชนสังคม ผ่านกลไกการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์
ในงานมีการเปิดเวที “Thailand Research Expo Talk : เวทีรวมพลังวิจัย ขับเคลื่อนประเทศไทย” โดย ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ศ.นพ.วชิร คชการ ประธานเครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ผศ.ดร.ลินดา เกณฑ์มา ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ และนพ.นพพร ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.)
และช่วง “Platinum Award Talk : เสริมพลังประชาคมวิจัย ด้วยรางวัลแห่งเกียรติยศ” โดย ผศ.ดร.วันชัย สุทธะนันท์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร และ รศ.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะได้รับรางวัล Platinum Award ในงาน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2564
นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดตัว “ เดี่ยว” สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล เป็นทูตวิจัยมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 พร้อมนำเสนอตัวอย่างผลงานวิจัยที่น่าสนใจ เช่น การสร้างมูลค่าเพิ่มบัวฉลองขวัญด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจไทย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุ รีที่ร่วมกับภาคเอกชนพัฒนาการเพาะเลี้ยง สกัดสเต็มเชลล์จากบัวฉลองขวัญ และใช้เทคโนโลยีในการกักเก็บสารสำคัญ เพื่อพัฒนาเป็นนวัตกรรมเครื่องสำอางสเต็มเซลล์จากบัวฉลองขวัญ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับพืชสมุนไพรไทย
การพัฒนาฐานข้อมูลอัจฉริยะแหล่งอัญมณีโลก (AI) จากสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่นำเทคโนโลยีเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์ มาประยุกต์ใช้ในการบ่งชี้แหล่งที่มาของอัญมณี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจวิเคราะห์ และยกระดับความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมอัญมณีของประเทศไทย
โครงการศึกษาพัฒนารูปแบบยาเตรียมตำรับยาแผนไทย จำนวน 16 ตำรับ ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ต่อยอดภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย โดยใช้องค์ความรู้ทางเทคโนโลยีเภสัชกรรม
นอกจากนี้ยังมีระบบการดูแลผู้ป่วย Home Isolation และ Community Isolation ด้วย Platform “ WeSAFE@Home by BUU” จากมหาวิทยาลัยบูรพา ระบบพยากรณ์การผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำในจังหวัดพัทลุง จากมหาวิทยาลัยทักษิณ
อย่างไรก็ดี ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 นอกจากจะมีการนำเสนอผลงานวิจัยในภาคนิทรรศการแล้ว ยังมีภาคการประชุม-สัมมนามากกว่า 150 กว่าหัวข้อ ทั้งหัวข้อสำคัญสำหรับการบริหารจัดการงานวิจัย และปัญหาสำคัญของประเทศ หัวข้อที่อยู่ในความสนใจของสังคม การประชุมกลุ่มนำเสนอบทความผลงานวิจัย และการประชุมถ่ายทอดความรู้ การให้คำปรึกษาด้านการทำวิจัย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการประกวดนวัตกรรมสายอุดมศึกษากว่า 100 ผลงาน และการมอบรางวัลมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565
สำหรับงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1- 5 สิงหาคม 2565 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานภาคการประชุมและภาคนิทรรศการได้ที่ https://researchexporegis.com โดยลงทะเบียนเข้าชมแบบ Onsite ภายในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 และแบบ Online ภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2565