“ดีอี”เตือนระวัง “โจรออนไลน์” “หลอกออมทอง-ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ”

23 มิ.ย. 2567 | 05:38 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2567 | 05:43 น.

“ดีอี” ตรวจพบข่าวปลอมเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง “ธ.อิสลาม ช่วยเหลือประชาชน รับรวมหนี้ ต่อธุรกิจ ปิดหนี้ และหมุนธุรกิจ” รองคือเรื่อง “กรุงไทยปล่อยสินเชื่อ ผ่านเพจสินเชื่อส่วนบุคคล SME” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะโฆษกกระทรวงฯ กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 1,185,068  ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 323 ข้อความ 

ทั้งนี้มีเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 241 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 218 เรื่อง โดยในจำนวนนี้มีข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด จำนวน 10 อันดับ ได้แก่
 

อันดับที่ 1 : เรื่อง  สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่านบัญชี TikTok baitoey049 

อันดับที่ 2 : เรื่อง บัญชีไลน์ธนาคารอิสลาม iBank 4 All (โล่สีเทา) เปิดให้ลงทะเบียนขอสินเชื่อ

อันดับที่ 3 : เรื่อง สินเชื่อกรุงไทย 100,000 บาท ผ่อนเพียง 1,750 บาท

อันดับที่ 4 : เรื่อง บัญชีไลน์ aurora3446 ได้รับรองการแนะนำลงทุนโดยสำนักงาน ก.ล.ต.

อันดับที่ 5 : เรื่อง ลงทุนกับบริษัท ฮั่วเช่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ร่วมกับ ก.ล.ต. กำไร 12-30%

อันดับที่ 6 : เรื่อง บัญชีไลน์เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล และนวัตกรรมทางการลงทุนของสำนักงาน ก.ล.ต. ชักชวนลงทุน

อันดับที่ 7 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ AMATA เปิดกองทุนผู้สูงอายุ เริ่มต้นที่ 1,299 บาท

อันดับที่ 8 : เรื่อง เพจ Thai Stock Securities ของตลาดหลักทรัพย์ฯ โฆษณาชวนลงทุนหุ้น

อันดับที่ 9 : เรื่อง  ธ. อิสลามปล่อยสินเชื่อผ่านทางไลน์ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์และบุคคลค้ำประกัน

อันดับที่ 10 : เรื่อง ธนาคารอิสลามให้บริการสินเชื่อ ผ่านบัญชี Tiktok @ibanktuti9y
            
“เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ จาก 10 อันดับ ข้างต้น พบว่าส่วนใหญ่เป็นข่าวที่มีการอ้างถึงธนาคารรัฐ และหน่วยงานรัฐ จึงทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อถือและมีความสนใจเป็นอันดับต้นๆ โดยหากหลงเชื่อโดยไม่ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง อาจทำให้เกิดความเสียหายและผลกระทบทั้งในส่วนบุคคล และประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมได้” นายเวทางค์กล่าว