กสทช. เตรียมเปลี่ยนผ่านสัมปทานวิทยุกระจายเสียง สู่ระบบใบอนุญาต สิ้นปี 67

09 ก.ค. 2567 | 09:26 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.ค. 2567 | 10:47 น.

กสทช.เตรียมเคาะหลักเกณฑ์ออกใบอนุญาตวิทยุกระจายเสียง เดินหน้าประชาพิจารณ์แล้วเสร็จ ล่าสุดคลอดหลักเกณฑ์และแนวทางกำหนด หลังสัญญาสัมปทานสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2567

จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ยุติการให้บริการวิทยุกระจายเสียงในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เปลี่ยนระบบเป็นใบอนุญาต และ ได้ทำประชาพิจารณ์ไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กสทช.) ชี้แจงความก้าวหน้าในการดำเนินการให้วิทยุทดลองออกอากาศซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3,809 สถานี (ชุมชน 156 สาธารณะ 592 และ ธุรกิจ 3,061 สถานี) ที่ต้องยุติการทดลองออกอากาศหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เข้าสู่ระบบใบอนุญาต

โดยหลังการรับฟังความคิดเห็น ได้ปรับปรุงให้สามารถรองรับสถานีวิทยุประเภทชุมชน 

  • ปัจจุบันมี 156 สถานี ได้มากขึ้นเป็น 168 สถานี
  • สถานีวิทยุประเภทสาธารณะ ที่ปัจจุบันมี 592 สถานี ได้มากขึ้นเป็น 670 สถานี
  • สถานีวิทยุประเภทธุรกิจ ที่ปัจจุบันมี 3,061 สถานี ลดลงเป็น 2,508 สถานี รวมเป็น 3,346 สถานี


ที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 14/2567 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ได้อนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียง โดยมีสาระสำคัญ สรุปได้ดังนี้

1. ยึดหลักการสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นขอใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่เพื่อประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วนทุกขั้นตอนไว้ในประกาศนี้ฉบับเดียว ซึ่งมีการกำหนดขั้นตอนหรือวิธีการยื่นขออนุญาตทุกประเภทที่ต้องดำเนินการในการให้บริการวิทยุกระจายเสียงไว้ในประกาศฉบับเดียวอย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องไปดูวิธีการขออนุญาตแต่ละประเภทในประกาศแต่ละฉบับ เช่น วิธีการขออนุญาตใช้คลื่น ในกิจการชุมชน/สาธารณะและธุรกิจ การขออนุญาตประกอบกิจการ และการขอใบอนุญาตเกี่ยวกับเครื่องส่งวิทยุกระจายเสียง การตั้งสถานีวิทยุคมนาคม เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการสะดวกและรับทราบข้อมูลล่วงหน้าประกอบการตัดสินใจ และไม่เกิดข้อผิดพลาดในการยื่นขออนุญาตต่อ กสทช.

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ

 

 

2. การปรับปรุงประกาศฯ เพื่อลดกระบวนการขั้นตอนการยื่นคำขอรับและการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นและใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการพิจารณาออกใบอนุญาตในชั้นของสำนักงาน กสทช. หรือของ กสทช. มีความรวดเร็วมากขึ้น สามารถรองรับการยื่นคำขอของผู้ประกอบการที่จะต้องพิจารณา 3,346 สถานี รวมทั้งการอำนวยความสะดวกในการยื่นคำขอรับใบอนุญาต เช่น การลดเอกสารประกอบการยื่นขอใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น หรือเอกสารนั้นอยู่ในความครอบครองของสำนักงาน กสทช. หรือผู้ประกอบการรายนั้นได้เคยยื่นต่อสำนักงาน กสทช. ไว้แล้ว เป็นต้น ทั้งนี้การปรับปรุงอำนวยความสะดวกดังกล่าวยังอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

3. ปรับปรุงเพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการที่จะยื่นคำขอ เช่น ค่าธรรมเนียมยื่นคำขอ การอนุญาตให้ใช้เครื่องส่งวิทยุกระจายเสียงเครื่องเดิมได้ รวมทั้งการขออนุญาตตั้งสถานีวิทยุคมนาคมสถานที่เดิมให้สามารถใช้เอกสารและข้อมูลเดิมได้ไม่ต้องจัดทำเอกสารใหม่ เป็นต้น โดยมีการคิดค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าเดิม เช่น อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับวิทยุบริการสาธารณะจากเดิมที่ต้องจ่าย 2,000 บาททุกปี เมื่อเข้าสู่ระบบใบอนุญาตจะจ่ายเพียงครั้งเดียว 1,000 บาท ได้รับใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 5 ปี เป็นต้น

4. เพิ่มเติมบทเฉพาะกาล เพื่อรองรับกรณีมีเหตุจำเป็นไม่สามารถพิจารณาออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่มายื่นความประสงค์เข้าสู่ระบบ ได้ทันภายใน ธันวาคม 2567 นี้ ยังให้สามารถออกอากาศเป็นการชั่วคราวได้

"พร้อมชี้แจงรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการกระจายเสียงดังกล่าว ในวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม นี้ สำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและภาคกลาง อย่างไรก็ตามสามารถเข้าร่วมประชุมออนไลน์ได้ จากนั้นจะชี้แจงในส่วนของภูมิภาคต่อไป เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับทราบและตอบข้อซักถามให้หายข้อสงสัยต่อไป" พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าว