แคนนอน ส่ง “EOS R1”- EOS R5 Mark II” ลุยตลาดกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม

27 ส.ค. 2567 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2567 | 11:07 น.

แคนนอน ปล่อยหมัดเด็ดส่งกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม 2 รุ่นใหม่ ทั้งกล้องเรือธง “EOS R1” และกล้องไฮบริดระดับเทพ “EOS R5 Mark II” ยกระดับกล้องระบบ EOS R ก้าวหน้าสู่เจเนอเรชันใหม่ ด้วยเทคโนโลยี Deep Leaning จัดเต็มทุกฟีเจอร์

มร. ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “ปี 2567 ถือเป็นหลักชัยสำคัญสำหรับแคนนอน ประเทศไทย โดยเราก่อตั้งสำนักงานอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนเมษายน ปี 2537 และในวันนี้ เรามีความภาคภูมิใจเป็นยิ่งที่ได้ฉลองครบรอบ 30 ปีของการดำเนินงาน ซึ่งตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา เราได้ร่วมสร้างความเติบโตเคียงข้างพันธมิตร ช่างภาพ และลูกค้าผู้มีอุปการคุณมาอย่างมั่นคง

แคนนอน ส่ง “EOS R1”- EOS R5 Mark II” ลุยตลาดกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม

แคนนอนมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนผู้ใช้งานและพร้อมรับฟังเสียงตอบรับเพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้าอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบัน เราได้เข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อันน่าตื่นใจ ซึ่งแคนนอนได้ผสานศักยภาพของสิ่งเหล่านี้เข้ากับเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จนสามารถทำในสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี AI ของเรานั่นเอง

วันนี้ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพระดับแฟล็กชิปที่ทุกคนรอคอยทั้ง EOS R1 และ EOS R5 Mark II สู่ตลาดกล้องเมืองไทยอย่างเป็นทางการ  โดยแคนนอนมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมกล้องเหล่านี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับงานถ่ายภาพไปสู่มาตรฐานอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าหากทุกท่านได้สัมผัสใช้งาน จะต้องรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน”

 

นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นระยะเวลากว่า 7 ปีมาแล้วที่แคนนอนเริ่มพัฒนากล้องมิเรอร์เลสในระบบ EOS R จนกระทั่งปัจจุบัน แคนนอนได้นำเสนอผลิตกล้องมิเรอร์เลส EOS R มาแล้วถึง 14 รุ่น ซึ่งครอบคลุมความต้องการและตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นจนถึงระดับมืออาชีพ และดังที่ มร. โยโกตะ ได้กล่าวไว้ว่าเราได้เข้าสู่ยุคแห่ง AI แล้วอย่างเต็มตัว

แคนนอน ส่ง “EOS R1”- EOS R5 Mark II” ลุยตลาดกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม

แคนนอนจึงได้ผสานเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ากับแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา ในรูปแบบของ Deep Learning Technology ซึ่งเป็น AI ที่ใช้คลังข้อมูลจำนวนมากในการวิเคราะห์ ทั้งการตรวจจับสภาพแวดล้อมในการถ่าย ทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุ และอื่น ๆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งในด้านความเร็วและความแม่นยำของระบบออโต้โฟกัส และคุณภาพของภาพถ่าย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานและช่วยให้ผู้ใช้งานได้ผลงานที่มีคุณภาพสูง แม้ในสถานการณ์การถ่ายภาพที่ไม่เคยทำได้มาก่อน การพัฒนาทั้ง EOS R1 และ EOS R5 Mark II ยังสอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่หยุดยั้งของแคนนอน เพื่อให้สินค้าของเราตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่มได้อย่างสมบูรณ์แบบและช่วยสนับสนุนการทำงานของช่างภาพและครีเอเตอร์ทุกระดับ ในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างไร้ข้อจำกัดใด ๆ

 

EOS R1: Be One with Mastery

กล้องมิเรอร์เลสเรือธงระดับมาสเตอร์สำหรับมืออาชีพตัวจริงที่โดดเด่นทั้งความเร็วและฟีเจอร์ครบครัน ทั้งความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง ความเร็วในการโฟกัส รวมถึงความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าระดับมืออาชีพที่เน้นเรื่องความรวดเร็วในการทำงานเป็นหลัก ทั้งการถ่ายการแข่งขันกีฬา ชีวิตสัตว์ป่า รวมถึงงานข่าว ส่งให้กล้อง EOS R1 ได้รับฉายา Speed Champion “You’R Difference” นำเสนอราคาเฉพาะตัวกล้องที่ 235,900 บาท

EOS R5 Mark II: Imagine Bigger Things

กล้องมิเรอร์เลสไฮบริด ที่มีความโด่นเด่นในเรื่องความละเอียด แบบ High Resolution ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว พร้อมจัดเต็มฟังก์ชันด้านวิดีโอ เพื่อให้เป็นที่สุดของ VDO performance รองรับกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการผลงานคุณภาพสูง โดยเฉพาะกลุ่มงานเวดดิ้ง งานผลิตวิดีโอเชิงพาณิชย์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไปจนถึงช่างภาพอาชีพทุกสาย จึงทำให้ EOS R5 Mark II เปิดตัวภายใต้สโลแกน Imaging Bigger Things “you’ R The Next Gen” โดยนำเสนอ 2 รุ่นได้แก่

•             EOS R5 Mark II เฉพาะตัวกล้อง ราคา 147,900 บาท

•             EOS R5 Mark II พร้อมเลนส์ RF24-105mm f/4L IS USM ราคา 192,900 บาท