เช้าวันนี้ (2 เม.ย. 66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และ นายอภิมุข ฉันทวานิช ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตยานนาวา-บางคอแหลม
ได้ร่วมลงพื้นที่ตลาดกิตติ ถนนเซนต์หลุยส์ เขตสาทร พบปะประชาชน พ่อค้าแม่ค้า เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสาทร-ปทุมวัน-ราชเทวี พรรคประชาธิปัตย์
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกระแสการตอบรับของพรรคประชาธิปัตย์ในกรุงเทพมหานครว่า เห็นได้ชัดว่าประชาชนคนกรุงเทพมหานครจำนวนมากที่มีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะบุคลากรของพรรคหลายคนมีความมั่นคง แน่วแน่ในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชน
“อย่างวันนี้ที่ตลาดกิตติพวกเราทุกคนมีความคุ้นเคยผูกพัน ก็หวังว่าความสัมพันธ์นี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีในการสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ได้กลับไปทำงานในสภาผู้แทนราษฎร”
เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ น.ส.อรอนงค์ จะมีโอกาสได้กลับมาทำงานหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีโอกาส แต่จะต้องทำงานหนัก เพราะมีการแข่งขันสูง อย่าง น.ส. อรอนงค์ เป็นคนหนึ่งที่อยู่ติดพื้นที่มาตลอดไม่เคยทิ้งประชาชนไปไหน
ส่วนกรณีที่มีหลายคนต้องการให้กลับมาเป็นผู้แทนราษฎรอีกนั้น นายอภิสิทธิ์ ตอบด้วยอารมณ์ขันว่า ยังไม่ถึงเวลา แต่ก็ยินดีมาสนับสนุนในฐานะสมาชิกพรรคและในฐานะที่ได้คุยกับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งนี้ก็เป็นเขตเลือกตั้งเก่าของตนด้วย
เมื่อถามต่อว่ากระแสตอบรับค่อนข้างดี รู้สึกอย่างไร นายอภิสิทธิ์ บอกว่า รู้สึกเป็นกำลังใจให้กับพรรคและพวกเราทุกคนในการเดินหน้าต่อ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวให้กำลังใจกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่จะเดินทางไปสมัครในวันพรุ่งนี้(3เม.ย.) ว่า ทุกคนกำลังใจดี อย่างบรรยากาศในวันนี้การตอบรับค่อนข้างดี และทุกคนก็มีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นอยู่แล้ว ส่วนพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) จะเดินทางไปให้กำลังใจด้วยตนเองหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความเห็นกรณีที่มีเหตุการณ์ชุลมุนที่เวทีปราศรัยของพรรคการเมืองหนึ่งเมื่อวานนี้ ว่า ทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออก แต่หากต้องการให้บรรยากาศของบ้านเมืองไปด้วยดี ตนคิดว่าในระบอบประชาธิปไตยก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการที่จะไปสร้างความขัดแย้ง
“การไปแสดงออกก็ควรอยู่ในรูปแบบที่ไม่ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดปฏิกิริยาขึ้นมาจะดีที่สุด ก็เห็นใจ เพราะเมื่อมีการแข่งขันกันทุกคนก็จะมีความต้องการอยากจะแสดงออก กองเชียร์ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้มีอารมณ์ แต่เราอยากให้กระบวนการประชาธิปไตย เป็นกระบวนการที่เราสามารถที่จะอยู่กับความแตกต่างและหาข้อยุติร่วมกันได้ จึงอยากจะขอประคับประคองให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี”