นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นเวทีงาน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ เปิดตัวนโยบายใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน ณ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
นายเศรษฐา ได้กล่าวถึงที่ผ่านตนได้เล็งเห็นถึงปัญหาความยากลำบากของประชาชน ได้เห็นปัญหาเศรษฐกิจที่รายได้น้อยลงสวนทางรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ที่สร้างช่องว่างความเหลื่อมในสังคมให้กว้างขึ้น และเห็นถึงปัญหาทางสิทธิที่ประชาชนถูกรัฐกัดกัน โดยเฉพาะสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นประชาธิปไตยของประชาชน
ตนจึงขอฝากให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนที่ประสงค์ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 400 คน ได้เป็นตัวแทนประชาชน นำนโยบายของพรรคเพื่อไทยแก้ไขปัญหาความเป็นเป็นให้พี่น้องประชาชน
นายเศรษฐา กล่าวว่า การประกาศนโยบายใหม่ ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยการสร้าง ‘กระเป๋าเงินดิจิทัล’ (Digital Wallet) ให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้จับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันใกล้บ้าน พร้อมเงินติดกระเป๋าที่รัฐจะแจกให้ทุกคน แต่เงินดิจิทัลนี้จะใช้จ่ายได้ เฉพาะกับร้านค้าชุมชน และต้องอยู่ในรัศมี 4 กิโลเมตร เท่านั้น
เงินดิจิทัลนี้ มีอายุการใช้งาน 6 เดือน และร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารรัฐในภายหลัง นโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งตั้งแต่ระดับชุมชนขึ้นไปจนระดับประเทศ
นายเศรษฐายังพูดเสริมถึงแนวทางการต่างประเทศของพรรคเพื่อไทยที่จะเปิดประตูการค้าและสร้างโอกาส ให้คนไทยได้มีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของรัฐบาลในการเป็นผู้เจรจาและเชื่อมสายสัมพันธ์กับนานาประเทศ เรียกความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเวทีโลกให้กลับคืนมา
ประชาชนจะได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายท้ังจาก การค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวที่จะเติบโตขึ้นหลายเท่า และดึงดูดเงินจากต่างประเทศให้เข้ามาฝากในเมืองไทย เพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย แล้วพาสปอร์ตไทยจะต้องมีอิทธิพลพาคนไทยเดินทางไปได้ทั่วโลก
นายเศรษฐาได้พูดถึงความสิ้นศรัทธาในเรื่องสิทธิมนุษยชนที่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลถัดไป ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของประชาชนให้มีสิทธิ์เสรีในการแสดงความคิดเห็น รวมถึงการเกณฑ์ทหารที่ต้องเป็นระบบสมัครใจ เพื่อสร้างทหารอาชีพ ขอบเขตการทำงานที่ชัดเจน คืนเกียรติให้กับกองทัพ
และแก้ไขกระบวนการยุติธรรมที่บิดพริ้วคืนศักดิ์ศรีให้ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม สร้างความเสมอภาคในสังคม ภายใต้รัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย
สุดท้าย นายเศรษฐาได้ฝากให้ว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัครส.ส. ทุกท่านเป็นตัวแทนพรรคนำความนโยบายพรรคเพื่อไทยไปเสนอให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ อย่างจริงใจ พร้อมอวยพรให้ทุกท่านได้ชนะเลือกตั้ง และทำให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล