ที่ร้านอาหารแหลมเจริญซีฟู้ด ถนนเลียบชายฝั่ง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระยอง พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายพเนตร วงษ์ไพศาล นายภีมเดช อมรสุคนธ์ นายชัยณรงค์ สันทัสนะ นายวิเชียร สุขเกิด และนายวิชัย ล้ำสุทธิ เข้ารับฟัง แลกเปลี่ยนสนทนากับผู้ประกอบการในจังหวัดระยอง
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายนำ และเอานวัตกรรมเสริม สร้างโอกาส สร้างรายได้ให้ประชาชน โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายการเลี้ยงนกนางแอ่น หรือการส่งเสริมเกษตรกรในการปลูกผลไม้เพื่อสร้างหลักประกัน และความมีเสถียรภาพของรายได้
ทั้งนี้ 8 ปีที่ผ่านมาพี่น้องคนไทยเหมือนคนป่วย การจะฟื้นเศรษฐกิจต้องให้ประชาชนแข็งแรง ตามนโยบายเศรษฐกิจทั้งระบบของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งนี้ หากเรายังไม่ตัดสินใจ หรือยังหาทางออก ภาพเดิมๆยังคงอยู่ หากพรรคเพื่อไทยไม่เข้มแข็งพอ ก็จะยากที่จะเอาชนะพวกเขาเหล่านั้นได้ ทางเดียวคือการเอาอำนาจจากพี่น้องประชาชนให้ได้เสียงถึง 310 เสียง ไม่เช่นนั้นเราจะติดหล่มแบบที่เป็นอยู่
นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยกับประชาชนถือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ปัญหาของประชาชนคือปัญหาของเรา พรรคเพื่อไทยเข้ามา เพื่อขออาสาทำให้พี่น้องประชาชนกินดี อยู่ดีขึ้น เพื่อไทยชูนโยบายให้ราคาแก๊ส ราคาน้ำมัน ค่าไฟถูกลง เพื่อปรับค่าใช้จ่าย และภาคส่วนอื่นๆ ดำเนินการต่อไปได้
ส่วนภาคเกษตร ทีมงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องยาง คือการใช้ปุ๋ยฝัง ที่สามารถเพิ่มผลผลิตได้ 2 เท่า ใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการปลูกและพิสูจน์ทุเรียนมาจากประเทศไทย เพื่อเพิ่มผลผลิตและยกระดับคุณภาพ ยืนยันใช้นโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ขอให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไปเป็นรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากได้รับฟังที่มาที่ไปของการปลดใบเหลืองกรณี IUU พบว่ากระทบต่อพี่น้องชาวประมงเป็นอย่างมาก จึงแปลกใจว่า ส.ส.ระยอง อยู่ในรัฐบาล เหตุใดจึงไม่เป็นตัวแทนประชาชนและเจรจาเรื่องประมง สาเหตุมาจากการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับปัญหาเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันแพง ส่วนหนึ่งมาจากผู้นำของประเทศ ที่ไม่ได้ไปออกเจรจาการค้าเอง หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจ การเจรดังกล่าวจะทำได้ง่ายมากขึ้น
สำหรับนโยบาย SMEs เรื่องกระแสเงินสดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตอนที่เกิดโควิดรัฐบาลตั้งกองทุน SMEs อย่างสวยหรู แต่ปล่อยออกไปไม่ได้ จึงต้องเร่งช่วยพี่น้องผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น หากธนาคารปล่อยกู้สินเชื่อ 100,000 บาท รัฐบาลจะปล่อยเพิ่มอีก 100,000 บาท เพื่อเพิ่มกระแสนเงินสดให้กับภาคธุรกิจ
พร้อมย้ำแนวคิดกระเป๋าเงินดิจิทัลในการเติมเงินให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปได้นำไปใช้จ่ายในพื้นที่ภายใน 6 เดือน โดยร้านค้าสามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารรัฐในภายหลัง นโยบายนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนระดับชุมชน เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ตั้งแต่ระดับชุมชนขึ้นไป จนถึงระดับประเทศ