วันนี้ (25 มี.ค.66) พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่เมืองทองธานี พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ และเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค เดินทางมาถึง มีเหล่าบรรดาแกนนำให้การต้อนรับ รวมไปถึงแฟนคลับมารอให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
จากนั้น มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 400 เขต พื้นที่ภาคอีสาน เช่น นายวิทยา แก้วภารดัย ,นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ,นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท พื้นที่ภาคเหนือนำโดยนายจุติ ไกรฤกษ์ ,นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ,นายแพทย์ปรีชา มุสิกุล อดีตส.สพรรคประชาธิปัตย์ ,นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีตส.ส. พรรคเพื่อชาติ ,นายนิโรธ สุนทรเลขา อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
ภาคกลางนำโดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ,นายอัคเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ อดีตส.ส. ประชาธิปัตย์ ,น.ส.กุลวดี นพอมรวดี อดีตส.ส.พลังประชารัฐ ,น.ส.ฐิติพัฒน์ โชติเชดาชัยอนันต์ อดีตส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ,นางรังสิมา รอดรัศมี อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์
พื้นที่ภาคใต้ นำโดย นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร เจ้าของพื้นที่จังหวัดพัทลุง , ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 33 เขตของกรุงเทพมหานคร นำโดย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ , นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. กล่าวตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เลือก ส.ส. แต่เป็นการเลือกคนที่จะมานำพาประเทศให้เดินหน้าไปแบบใหม่ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอประกาศนำพาประเทศไทยของพวกเราให้เป็นประเทศที่มีความสุข มีความมั่นคง มีความสามัคคีปรองดองพูดแล้วเราทำแล้ว ภายใต้ 3 สีแ ดง ขาวน้ำเงิน คือ ประเทศไทย
พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดว่า หาก 2 ปีต่อไป กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี คนไทยต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน 8 ปี ที่ผ่านมาประชาชนทุกคนเห็นการเปลี่ยนแปลง ทั้งโครงสร้างระบบคมนาคม ความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบีย และการแก้ปัญหาโควิด
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขึ้นกล่าวขอบคุณทุกคนที่ตัดสินใจมาอยู่ร่วมกับเรา รวมไทยสร้างชาติ ทั้ง 400 เขต พร้อมระบุว่า รู้สึกตื่นเต้นพอสมควร ที่ได้พบสมาชิกครบทั้งพรรค ส่วนใหญ่ก็จำหน้ากันได้ทั้งหมดแล้ว ตนมีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งคือจำชื่อไม่ค่อยได้ วันนี้ไม่ได้มาในนามนายกฯ คนที่มาบางคนก็เป็นส.ส.มาก่อน เป็นทั้งคนรุ่นกลาง รุ่นเก่า รุ่นใหม่
“หากเปรียบเทียบกับรถก็เป็นรถที่ใช้น้ำมัน และรถยนต์ไฮบริด และรถที่ใช้ไฟฟ้า คนเหล่านี้ที่รับทราบว่าคนแต่ละยุค แต่ละวัยเขาคิดอะไร แล้วเราจะทำอย่างไร ทำได้มากน้อยแค่ไหน พวกเรายืนยันว่าเราจะขับเคลื่อนไปด้วยกันให้คนทุกวัยของประเทศ เดินหน้าไปตามวิสัยทัศน์ของเรา เดินหน้าไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน เพราะคือยุทธศาสตร์พรรค”
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า ทุกคนไม่มีแสวงหาผลประโยชน์ ทุกนโยบายถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และสัญญาว่าจะทำสิ่งที่ว่า โดยใช้ความรู้ประสบการณ์ที่มีอยู่ปรับบ้าง อะไรบ้าง ตามสถานการณ์ตามยุคสมัย พร้อมถามว่าใครบริหารมาถึงทุกวันนี้ เศรษฐกิจจึงเดินหน้ามาได้ ซึ่งประชาชนก็ตะโกนตอบว่า “ลุงตู่”
พร้อมพูดติดตลกกับหัวหน้าพรรคว่า หากมี ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ 400 คน เข้าอยู่ในสภาแล้วจะทำอย่างไร เราต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำ รวมกันเราอยู่ แยกกันเราตาย
“ผมเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก แต่เป็นคนจริงใจ ฉะนั้นเราจะต้องมีหัวใจอันยิ่งใหญ่ ผมมีหัวใจสีม่วง วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโกหกพูดให้ตัวเองดูดี ไม่ใช่เพราะเคยเป็นทหารมาก่อน กรมทหารคือมีสัญลักษณ์หัวใจสีม่วง ต้องถามหมอเหรียญทองอีกที คำว่าหัวใจสีม่วงคืออะไร หัวใจของคนใกล้ตาย”
ดังนั้น จึงเป็นหัวใจที่ไม่พูดความเท็จ พูดโกหกไม่ได้ เพราะอย่างไรก็ใกล้ตาย แต่ไม่ใช่ว่าตนจะตาย แต่เปรียบเทียบให้ฟัง เพราะพูดด้วยความจริงใจ เราทั้ง 400 คน รับจะดูแลคนทั้งประเทศ ในเมื่อทุกคนมีความรู้ มีประสบการณ์ที่หลากหลายแต่เป้าหมายเดียวกัน พร้อมชูกำปั้นตะโกน คำว่ารวมไทยสร้างชาติ 3 ครั้ง
พล.อ ประยุทธ์ ยังยืนยันว่า จะทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง เป็นทางเลือกหลักของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ทางผ่าน เราต้องเป็นสายตรง สายหลักมอเตอร์เวย์ ไม่ใช่ทางผ่านของใคร หากใครจะมาก็คงต้องขออนุมัติขึ้นทางผ่านขอให้ร่วมมือกัน และได้ ส.ส. มากที่สุดก็แล้วกัน เพราะคนของเราไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่ คนของเราเป็นคนใหม่ แต่ตนหน้าเก่า
ส่วนสโลแกน ของพรรคคือ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ แต่หลังจากนี้จะเป็นทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อพลัส ประเทศไทยต้องไปต่อ ต้องดีกว่ารุ่นของเรายิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยการพัฒนาร่วมมือกัน หากไม่ร่วมมือกัน คงไปไม่ได้ทั้งหมด
พร้อมระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองน้ำดี รวมไปถึงเป็นพรรคที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง เราขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว วันนี้ต้องทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ ตนเป็นลูกผู้ชายพอ เราจะไม่โจมตี ไม่ให้ร้าย เราจะทำของเรา ขออาสาจะทำให้ประชาชนมีความสุขให้ได้มากที่สุด
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ก่อนบางจังหวัดไปไม่ได้ เขาไม่ให้ไปหรือเปล่า แต่เดี๋ยวนี้ไปทั้งหมด ทำงานมา 8 ปี ไปทุกจังหวัด ต้องทำงานให้คนทั้งประเทศ “
ผมยอมรับความเห็นต่าง แต่ไม่แตกแยก ยึดถือแนวทางนี้มาตลอด ความสุขของคนไทยเป็นกำไรของทุกคนในประเทศชาติ เพราะทุกคนเป็นหุ้นส่วนของประเทศ จะต้องได้กำไรส่วนนี้ ผมและพวกเราไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ที่ผ่านมารัฐบาลมีเสถียรภาพ ครบวาระขาดอีกไม่กี่วันถึงยุบสภา แต่รัฐบาลหน้าอยู่ให้ครบ 4 ปีเต็ม”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เสนอแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 2 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ นายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
ขณะเดียวกันภายในงานยังมีการเปิดตัวเพลงใหม่ชื่อว่า "ลุงตู่อยู่ไหน" เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเพลงที่กลุ่มนักศึกษาแต่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตแรก และเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ แล้วเสร็จ โดย พล.อ.ประยุทธ์ และแกนนำอยู่ภายในห้องรับรอง ได้มีชายวัยรุ่นเดินชู 3 นิ้ว เข้ามาภายในงาน พร้อมระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจมาแสดงออก แต่รู้สึกไม่พอใจ ก่อนที่ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวจะถูกกองเชียร์พาออกจากพื้นที่ โดยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด