4 เม.ย.66)ศาลปกครองสูงสุด ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาคดีนัดแรก ในที่คดีที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. คดีที่นายพัฒนา สัพโส ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.จ.สกลนคร คดีที่นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในจ.สุโขทัย และคดีที่นายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์จากจ.สุโขทัย
ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กรณีขอให้เพิกถอนประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ,จ.สกลนคร และจ.สุโขทัย ลงวันที่ 16มี.ค.2566 ตามลำดับ
ในการพิจารณาคดีครั้งนี้ มีเพียง ผู้ฟ้องคดี 3 รายเดินทางมาแถลงปิดคดีที่ศาลด้วยตัวเอง คือ นายนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ผู้สมัครส.ส.กทม. นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.ในจ.สุโขทัย และนายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์
โดยต่างแถลงปิดคดีตรงกันว่า ประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.2566 การแบ่งเขตการเลือกตั้ง รูปแบบที่ 1 เป็นการรวมแขวง/ตำบลเพื่อกำหนดเป็นเขตเลือกตั้งใหม่ โดยไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์รวมเขตปกครองครอง/อำเภอต่างๆ เป็นเขตการเลือกตั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 มาตรา 27 กำหนด
เป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง และกระทบสิทธิของประชาชนสร้างความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง และกระทบต่อจำนวนราษฎรผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะที่ ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจาก กกต.ขอส่งแถลงการปิคคดีทั้ง 4 คดีเป็นลายลักษณ์อักษร
จากนั้นองค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวนคดีก็ได้ให้ตุลาการผู้แถลงคดีซึ่งเป็นตุลาการนอกองค์คณะแถลงความเห็นส่วนตัวที่องค์คณะจะนำไปประกอบการพิจารณาด้วย
โดยตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นในทั้ง 4คดี ว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส. ในปี 2566 นี้ มีความแตกต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ทั้งในจำนวนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีกำหนดว่า ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น หรือ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
รวมทั้งส่วนของจำนวน ส.ส.ที่เพิ่มขึ้นส่วนของ กรุงเทพมหานคร ที่เพิ่มจาก 30 คน เป็น 33 คน จ.สกลนคร เพิ่มจากเดิม 6 คน เป็น 7 คน และ จ.สุโขทัย เพิ่มจากเดิม 3 คน เป็น 4 คน ประกอบกับ รัฐธรรมนูญ มาตรา 86 (5) กำหนดว่า จังหวัดใดมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เกินหนึ่งคน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเป็นเขตเลือกตั้งเท่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พึงมี
โดยต้องแบ่งพื้นที่ของเขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกัน และต้องจัดให้มีจำนวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน ดังนั้น เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ต่อจำนวน ส.ส.1 คน เป็นตัวตั้ง ทั้งในเขตพื้นที่ของ กรุงเทพมหานคร จ.สกลนคร และ จ.สุโขทัย ตาม ประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.2566
พบว่า จำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ในแต่พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร จ.สกลนคร และจ.สุโขทัย มีจำนวนมาก หรือ มีจำนวนน้อย กว่าร้อยละ 10 ของค่าเฉลี่ยจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง 162,766 คน ต่อจำนวน ส.ส.1 คน จนเกินไป
การที่ กกต.ออกประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.2566 ในส่วนของกรุงเทพมหานคร 33 เขตเลือกตั้ง จ.สกลนคร 7เขตเลือกตั้ง และ จ.สุโขทัย 4เขตเลือกตั้ง จึงเป็นการประกาศที่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นควรที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณายกฟ้องในคดีนี้
หลังจบกระบวนนั่งพิจารณาคดี องค์คณะตุลาการเจ้าของสำนวนได้แจ้งคู่กรณีทุกฝ่ายว่าศาลนัดฟังคำพิพากษาคคีในวันที่ 7 เม.ย.นี้