“พล.อ.ธรรมรักษ์”เผย พปชร. ยังไม่ปิดประตูจับมือกับ“เพื่อไทย”

วันนี้ (13 เม.ย.66) พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณอยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเลือกตั้ง 2566 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานที่รับผิดชอบ ว่า เป้าหมายของตนที่เข้ามาช่วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.  คือขอให้มาช่วยเรื่องของนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องความปรองดอง และการแก้ปัญหายาเสพติดที่เคยได้ทำมาก่อนหน้านั้น

“ผมอยากจะมาช่วยเรื่องนี้จริงๆ เพราะเห็นว่าเวลานี้ยาเสพติด เป็นปัญหาหนักมาก มีการระบาดรุนแรง ส่วนที่ต้องไปแข่งขันกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งในอดีตก็คือ พรรคไทยรักไทย  แต่วันนี้พรรคไทยรักไทยถูกยุบไปแล้ว ถือเป็นคนละพรรคกัน  เมื่อมาเจอกันในสนามเลือกตั้งก็ต้องสู้ เป็นการต่อสู้กับลูกน้องเก่า”

พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า การต่อสู้ในสนามภาคอีสาน ที่มีคนบอกว่าพรรคพลังประชารัฐ จะได้แค่ 4 คนนั้น  ต้องบอกว่า เมื่อตนมาดูแลได้ตั้งเป้าหมายให้ได้ ส.ส.ทุกจังหวัด เฉลี่ยจังหวัดละ 1 คน  ยอมรับว่าอาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะเมื่อเข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประวิตร  ทางพรรคได้การคัดเลือกผู้สมัครในแต่ละจังหวัดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ตนเป็นเพียงผู้มาเสริม 

“ยอมรับว่า การจะให้ได้ ส.ส.เข้ามาเป็นจำนวนมากเหมือนสมัยที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทย ต้องบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เป็นคนเลือก และยุคสมัยพื้นที่ก็เปลี่ยนไป แต่จะนำนโยบายลงไปบอกกับประชาชนในพื้นที่ เราต้องสู้กันด้วยเรื่องของนโยบายเป็นหลัก”

“พรรคอื่นอาจจะมีกระแสในพื้นที่ค่อนข้างดี แต่ตัวของผู้สมัครของเราจะเข้าไปช่วงชิงด้วยการนำนโยบาย ไปบอกกับประชาชนว่าเรามีนโยบายอะไรบ้างที่จะเข้ามาช่วย  โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ปัญหาความยากจน 

นอกจากนั้น จะย้ำว่าหากต้องการให้นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ หาเสียงไว้ทำได้จริง  จะต้องเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อมาเป็นรัฐบาล และทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้  ทั้งนี้จากที่ลงพื้นที่คนยังรู้จักผมอยู่เป็นจำนวนมาก   แม้จะห่างหายจากการเมืองมา 10 ปี   ก็ไม่ช้าเกินไป และที่เข้ามาช่วยพรรคพลังประชารัฐก็มาเป็นการเฉพาะกิจ” พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมั่นใจหรือไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ยังจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในครั้งหน้าตามเป้าหมายที่วางไว้ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ยังบอกไม่ได้ทุกอย่างต้องรอผลการเลือกตั้งว่าออกมาเป็นอย่างไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันอยู่หรือไม่ว่าจะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคก้าวไกล พล.อ.ธรรมรักษ์  กล่าวว่า เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร ก็พูดและได้ยืนยันปฏิเสธไปแล้ว  ส่วนใครที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่สามารถร่วมงานกันได้เป็นความเห็นส่วนตัว แต่เราจะดูหลังการเลือกตั้ง ถ้านโยบายไปด้วยกันได้  ก็ร่วมงานกันได้  ไม่ได้ปิดประตูตาย เพราะการเมืองไทยอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

เมื่อถามว่าหลังการเลือกตั้งได้มีการพูดคุยหรือวางตำแหน่งทางการเมืองเอาไว้หรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ไม่ได้หวัง  เพราะตนพักเรื่องการเมืองไปนานแล้ว  ครั้งนี้มาช่วยเป็นการเฉพาะกิจยังไม่ได้หวัง ยังไม่ได้คิดในเรื่องตำแหน่งใดๆ