วันนี้(15 เม.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของ พรรคเพื่อไทย(พท.) และคณะ ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดเทศบาลบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อช่วยหาเสียงให้ นางสาวชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 4 เบอร์ 7 พรรคเพื่อไทย
โดยประชาชนได้พูดว่า จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หมายเลข 29 และบอกว่ากระแสของพรรคเพื่อไทย และนายเศรษฐา กำลังมาแรง ในจังหวัดราชบุรีประชาชนยังบอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะเลือกพรรคเพื่อไทย จังหวัดราชบุรี ขณะที่ นายเศรษฐา พูดคุยกับประชาชนคนดังกล่าวว่า “ก็ต้องลองคนใหม่บ้าง 8 ปีมาแล้วนะครับ” ซึ่งประชาชนบอกว่า “ต้องคนรุ่นใหม่เท่านั้น”
ต่อมา นายเศรษฐา ทวีสิน นำคณะ เดินตลาดเทศบาลบ้านโป่ง เพื่อพบปะและขอเสียงพี่น้องประชาชนบ้านโป่ง โดยแม่ค้าได้แซวนายเศรษฐาว่า “หล่ออะไรอย่างนี้ ตัวจริงหล่อ หล่อกว่าในทีวี แพ้ความหล่อ” ทำให้ นายเศรษฐา ยิ้มเขิน ขณะที่บางคนเดินเข้ามาจับมือ แล้วบอกว่า “ขอจับมือคนรวยหน่อย อยากรวยบ้าง” ซึ่ง นายเศรษฐา ได้ฝากเลือก ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เบอร์ 7 และเลือกพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 ด้วย แล้วคนไทยทุกคนจะรวยขึ้น
ขณะเดินตลาดอยู่นั้น แม่ค้าขายข้าวเหนียวมะม่วงได้เรียก นายเศรษฐา ให้เข้าไปชิมข้าวมะม่วง ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เข้าไปแวะชิมพร้อมบอกว่า “อร่อยมากๆ ครับ ข้าวเหนียวมะม่วง ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์หนึ่งของไทยเราด้วย”
สำหรับบรรยากาศการเดินตลาดบ้านโป่ง นายเศรษฐา และ พรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก หลายคนเข้ามาขอถ่ายภาพ มอบดอกไม้ และทักทายให้กำลังใจอย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อ นายเศรษฐา เดินผ่านจุดใด พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดบ้านโป่งจะพูดว่า ใช่พรรคที่จะเติมเงินในกระเป๋า 10,000 ใช่หรือไม่
จากนั้น นายเศรษฐา และคณะ เดินทางมาพบพี่น้องประชาชนบ้านโป่งประมาณ 2,000 คน ที่หอประชุม อาคารอารีน่า อ.บ้านโป่ง โดย นายเศรษฐา ได้สรงน้ำพระ ก่อนจะรดน้ำขอพรผู้สูงอายุเนื่องในวันผู้สูงอายุ และเทศกาลสงกรานต์
นายเศรษฐา กล่าวว่า ช่วงสงกรานต์อยากเดินทางไปพบพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้ดีใจมาก ตอนแรกทราบว่า พี่น้องจะมา 700-800 คน แต่พอมาจริงมากว่า 2,000 คน
ทั้งนี้ ตลอดช่วง 8 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่พี่น้องประชาชนทุกข์ทรมาน ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมามีเวลาถึง 8 ปี แต่กลับทำให้เราต้องทนอยู่ในสถานการณ์แบบปัจจุบันที่รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม pm2.5 วิกฤติ และประชาชนไม่มีสิทธิเลือกทำอาชีพที่ตนอยากทำ
ดังนั้น พรรคเพื่อไทย เราสนับสนุนให้พี่น้องประชาชนมีสิทธิเลือกประกอบอาชีพ การเป็นทหารก็เช่นกัน เราต้องการให้พี่น้องมีสิทธิเลือก และสมัครใจเกณฑ์ทหาร
นอกจากนี้ สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คนที่เกษียณอายุแล้วเก็บเงินได้ไม่พอเลี้ยงดูตนเอง พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนตรงนี้ และจะต้องส่งเสริมให้ลูกหลานไทยมีศักยภาพในการเลี้ยงดูตัวเอง และครอบครัวด้วย
ต่อมาคือ เรื่องเศรษฐกิจ จีดีพี ของเราเติบโตเพียง 2.3% ตำกว่าค่า pm2.5 เสียอีก นายกฯ คนปัจจุบัน เกือบเรียกได้เต็มปากว่าไม่เคยเดินทางไปเปิดตลาดสินค้าให้คนไทยเลย ไม่รู้ว่าเพราะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือ ไม่สนใจเลย แต่ถ้าได้นายกฯ มาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าคนใด เราตกลงกันแล้วว่าจะออกไปเปิดตลาดสินค้าให้พี่น้องประชาชน
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า สำหรับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีคนกล่าวถึงอย่างมากนั้น เรายืนยันที่จะเติมเงินใส่กระเป๋าให้พี่น้องประชาชนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ในระยะทาง 4 กิโลรอบที่อยู่ตามบัตรประชาชน
“ท่านอย่าให้ใครมาด้อยค่านโยบายนี้ อย่าให้ใครมาบอกว่านโยบายนี้เราไม่ดี เพราะเราคิดทุกอย่างมาอย่างรอบคอบแล้วทั้งหมด ซึ่งถ้าเปรียบกับนโยบายบางพรรคที่จ่ายให้ท่าน 500-700 บาทต่อเดือน แบบนั้นจะเอาไปทำอะไรได้ เหมือนการหยอดน้ำข้าวต้มไปวันๆ
แต่ที่พรรคเพื่อไทยให้ เราให้พี่น้องเอาไปตั้งตัวได้ และหากครอบครัวใดที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน เราเติมให้จนถึง ที่สำคัญเรามีนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเราจะต่อยอดให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่นี้ บัตรประชาชนใบเดียวก็รักษาได้เลย”
แต่นโยบายเหล่านี้เราจะทำได้ ก็ต่อเมื่อพี่น้องเลือกเราทั้งคน ทั้งพรรค ถ้าเบอร์พรรคก็เบอร์ 29 แต่ถ้าที่บ้านโป่งต้องเลือกเบอร์ 7 นางสาวชะวรลัทธิ์ เป็นคนที่อยู่กับพรรคมาเสมอ เข้าใจนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี
“ดังนั้น เราต้องช่วยกันผลักดัน นางสาวชะวรลัทธิ์ แล้วเราจะดูแลพี่น้องประชาชนอย่างดี และเราทุกคนต้องออกไปใช้สิทธิ เพื่อแสดงให้คนทั้งประเทศทราบว่า เราพอแล้วกับ 8 ปีที่ผ่านมา จากนี้เป็นเวลาของเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน”
สำหรับกำหนดการของนายเศรษฐา ในช่วงบ่ายจะนำคณะเดินทางไปหาเสียงต่อที่ตลาดน้ำดอนหวาย อ.สามพราน จ.นครปฐม