วันนี้ (16 เม.ย. 66) ที่โรงยิมสนามกีฬาติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะนวัตกรรมการเมือง พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ร่วมปราศรัยขอเสียงสนับสนุนให้นายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส. สงขลา เขต 1 หมายเลข 4 ซึ่งในเวทียังมี นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายการเมือง ร่วมปราศรัยด้วย ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาร่วมรับฟังอย่างคึกคัก
น.ส.วทันยา กล่าวว่า วันนี้รู้สึกอบอุ่นและดีใจมากที่ได้มาเจอคนสงขลา ซึ่งตนอยู่ที่ กทม. เมื่อเช้าได้ไปเดินตลาด ตนและคน กทม. เหนื่อย แต่ไม่ได้เหนื่อยเพราะทำงานหนัก แต่กลับเป็นการเหนื่อยใจ และเสียใจในช่วงที่ผ่านมา เราเห็นปัญหาของประชาชน แต่หลายครั้งเราไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้
และเมื่อเวลาเราทำแบบนี้ทุกๆ ครั้ง เราเสียใจที่รู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ทั้งนี้เพราะเรามีการเมืองที่ไม่ดี เป็นการเมืองที่อยู่แต่ในวังวนของความขัดแย้ง เป็นการเมืองที่มัวแต่ทะเลาะกันเอง ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนาประเทศ ทำให้สูญเสียโอกาสของประเทศ และของเยาวชนที่จะได้มีโอกาสดีๆ เหมือนเด็กในต่างประเทศ
ดังนั้น มันถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนการเมือง เพราะที่ผ่านมาเราอยู่บนการเมืองของขั้วความขัดแย้ง ที่ฝ่ายหนึ่งอ้างว่าตัวเองสวมเสื้อประชาธิปไตย อ้างว่าตัวเองมาจากประชาชน แต่เมื่อเข้าไปในสภากลับทุจริตเชิงนโยบาย โกงกินเงินงบประมาณ
ส่วนอีกฝ่ายที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อจะมาจัดการกับความขัดแย้ง บอกว่าให้เลือกความสงบ แต่ปรากฏว่าก็จบลงที่เศรษฐกิจเงียบสงัด ความขัดแย้งก็เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม และท้ายที่สุดก็ทุจริตไม่ต่างกัน
น.ส.วทันยา กล่าวอีกว่า วันนี้สิ่งแรกที่เราต้องเปลี่ยน คือ เปลี่ยนพรรคการเมือง เราต้องเลือกพรรคการเมืองที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีกลุ่มทุนมาคอยชี้นำ เพราะพรรคการเมืองนั้นจะเป็นพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งนั่นก็คือพรรคประชาธิปัตย์
“เรายืนอยู่คู่พี่น้องคนใต้ และคนไทยมาได้ 77 ปี และนั่นคือเครื่องยืนยันและการันตีให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียวที่มีจุดกำเนิดที่เกิดขึ้นมาจากประชาชน ทำเพื่อประชาขน และเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง”
ส่วนสิ่งที่ต้องเปลี่ยนที่ 2 คือ เปลี่ยนไปเลือก ส.ส. ที่มีอุดมการณ์ ส.ส.ที่ไม่ไปเข้าพรรคการเมือง เพราะถูกประมูลตัวไป เพราะเมื่อถูกประมูลตัวไป เท่ากับว่าเขาเริ่มต้นนับ 1 ทั้งที่ยังไม่เข้าสภาด้วยเงิน
ดังนั้น เมื่อเข้าไปสภาคิดว่าเขาจะเลือกประชาชน หรือเงิน และเมื่อเขาอยู่พรรคการเมืองที่มีเจ้าของ มีนายทุน และยังเริ่มต้นก่อนเข้าสภาด้วยการเลือกเงิน พี่น้องประชาชนก็คงจะรู้ว่านักการเมืองเหล่านั้น เมื่อเข้าไปในสภาจะมุ่งหาผลประโยชน์ มุ่งกอบโกยผลประโยชน์ ทำเพื่อตัวเอง โดยไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ น.ส.วทันยา ยังได้กล่าวถึง 4 เหตุผลว่าทำไมต้องเลือก “สรรเพชญ” โดยระบุว่า แม้ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์จะมีเลือดไหลออก แต่ก็มีเลือดใหม่อย่าง นายสรรเพชญ ที่เป็นเลือดใหม่ DNA ประชาธิปัตย์ไหลเข้ามาเช่นกัน และนายสรรเพชญ คือ ผู้ที่ควรได้รับโอกาส เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานให้พี่น้องชาวสงขลาด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจมาโดยตลอด
อีกทั้ง นายสรรเพชญ ยังถือว่าเป็นช้างเผือกของพรรคประชาธิปัตย์ที่พลาดไม่ได้ อย่างที่มีผลโพลจากหลายสำนักได้ประเมินไว้ และท้ายที่สุด นายสรรเพชญ ถือเป็นคนที่มีอุดมการณ์ยืนหยัด ประชาธิปัตย์ เท่ากับ ประชาชน