วันที่ 18 เม.ย.2566 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง และ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ลงพื้นที่เขตดอนเมือง ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. เขตดอนเมือง นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ หมายเลข 7 โดยเริ่มต้นด้วยการขึ้นรถแห่รอบ ถ.สรงประภา และพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนจะลงเดินทักทายรับฟังปัญหา และแนะนำผู้สมัคร ที่บริเวณตลาดโกสุม
นายองอาจ กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นคนเดิมตั้งแต่ปี 2562 และอยู่ในพื้นที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับประชาชนมาโดยตลอด เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเห็นว่านายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ เป็นที่ไว้วางใจและเป็นตัวเลือกเข้ามารับใช้ประชาชนในพื้นที่ต่อไป ซึ่งปกติแล้วทุกพื้นที่ก็จะมีอดีต ส.ส. ที่มีฐานเสียงเดิมอยู่แล้ว คนใหม่ก็ต้องทำงานหนักขึ้น
ส่วนเขตดอนเมือง ถือเป็นเขตที่ยากสำหรับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายองอาจ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาเราเคยมี ส.ส. เขตดอนเมือง ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ช่วงจังหวะเวลาการเมืองในขณะนั้นด้วย
มีหลายเงื่อนไข หลายปัจจัย ที่จะมีส่วนในการตัดสินใจของประชาชนแต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทีมงานพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร ทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนเห็นความตั้งใจจริง และจากการลงพื้นที่มาตลอดเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาส ผู้สมัครเขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์
นายองอาจ ยังกล่าวถึงภาพรวมของพรรคจากการลงพื้นที่ ว่า ประชาชนให้การตอบรับดี และมีประชาชนหลายคนเข้ามาพูดว่าขอโทษที่ครั้งที่แล้วไม่ได้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ และจะกลับมาเลือกซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ว่าประชาชนที่คอยสนุบสนุนพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะใน กทม. ที่พรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่า 1,000,000 เสียงมาโดยตลอด
แต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์เหลือคะแนนเพียง 390,000 เสียง เพราะฉะนั้นคราวนี้ขอร้องวิงวอนพี่น้องประชาชน ที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ขอให้กลับมาเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์เพราะเชื่อว่าเสียงที่เคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ กทม. แล้วไปเลือกพรรคอื่นในการเลือกตั้งปี 62 ให้กลับมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส. ใน กทม. อย่างแน่นอน
ขณะที่ น.ส.วทันยา กล่าวถึงผลสำรวจคะแนนนิยม จากโพลหลายสำนักที่คะแนนพรรคประชาธิปัตย์และปาร์ตี้ลิสต์ ยังตามหลังพรรคอื่นๆ อยู่หลายลำดับ ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าลงพื้นที่เข้าไปขอคะแนนกับประชาชน พบปะพูดคุยถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจมากที่สุด รวมถึงการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ทั้งใน กทม. และ จังหวัด ต่างๆ ในช่วง 26 วันที่เหลือ
ส่วนกลยุทธ์ และหมัดเด็ดที่จะเอาชนะใจประชาชนเพื่อทำคะแนนนิยมให้ทันพรรคอื่นๆ นั้น ตนเชื่อว่าจุดยืนในการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ พิสูจน์ว่าตลอด 77 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่พึ่งพาให้กับประชาชนมาได้เสมอ ทั้งใน กทม. และทุกภูมิภาค รวมถึงการทำงานหนัก
โดยเฉพาะใน กทม. ถึงแม้ว่าตลอด 4 ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส. แต่เราไม่เคยทิ้งคนกรุงเทพ ในทางกลับกันยังคงทำงานหนัก มุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อพี่น้องกรุงเทพ และเชื่อว่าประชาชนดูที่ความตั้งใจของผู้สมัคร ไม่ได้ตัดสินใจประเดี๋ยวประด๋าว แต่ดูการทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ทำงานด้วยการรับฟังเสียงพี่น้องประชาชนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้ดีขึ้นเสมอมา