คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค ไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี น.อ.อุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายนพดล มังกรชัย รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคไทยสร้างไทย ร่วมปราศรัยใหญ่พรรคไทยสร้างไทย
พร้อมประชันวิสัยทัศน์ ของผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคไทยสร้างไทย ซึ่งมาสะท้อนการทำงานและความมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน หลังลงพื้นที่ทำงานรับใช้ชาวกรุงเทพมหานครมาอย่างยาวนานซึ่งได้รับความสนใจ จากพี่น้องชาวกรุงเทพในแต่ละเขตร่วมรับฟังจนแน่นขนัดลายคนเมือง
คุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวทีกล่าวถึงจดหมายเปิดผนึกซึ่งสะท้อนความในใจ ในฐานะแม่ของลูก 3 คน และคิดเหมือนพ่อแม่หลายคน ที่ตอบลูกไม่ได้ว่า พวกเขาจะมีอนาคตในประเทศนี้อย่างไร
และในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ดิฉันได้เดินทางไปทั่วประเทศได้สัมผัสความทุกข์ของพี่น้องทั่วประเทศ ที่วิ่งเข้ามากอด ร้องไห้ และฝากความหวังไว้กับดิฉัน ดิฉันได้แบกรับความทุกข์ของพี่น้องไว้เต็มหัวใจ
ด้วย 2 เหตุผลนี้ ดิฉันจึงตั้งใจใช้ประสบการณ์ 30 ปี มาแก้ทุกข์ให้พี่น้องหายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืนให้สำเร็จ พร้อมนำทีมคนรุ่นใหม่ของพรรคไทยสร้างไทย ขอทำภารกิจครั้งสุดท้ายเพื่อ “สร้างประเทศไทยที่ดีที่สุด ให้คนรุ่นต่อไป
“พอหรือยัง! กับ 17 ปีที่ประเทศต้องติดหล่มความขัดแย้งการเมือง 2 ขั้วเกิดรัฐประหาร 2 ครั้ง ทำประชาชนทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส ประเทศถดถอยทุกด้าน การเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าพี่น้อง “เลือกแบบเดิมๆ เลือกพรรคเดิมๆ เสี่ยงเกิดความขัดแย้งรอบใหม่ การรัฐประหารก็อาจจะเกิดขึ้นมาอีก ประเทศเดินต่อไม่ได้”
ดิฉันขอยืนยันว่า พรรคใหม่ แต่มากประสบการณ์อย่าง “ไทยสร้างไทย” จะเป็นทางรอดของประเทศ เรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่สนับสนุนเผด็จการ ไม่เอานักการเมืองฉ้อฉล และไม่เป็นนอมินีของใคร ไม่พาประเทศไปสู่วิกฤติ เพราะ ไทยสร้างไทย “นายใหญ่” คือประชาชน
ดิฉันขออาสาพาประชาชนไปสู่ชัยชนะ เร่งดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดจนแก่ให้อยู่อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรี มั่นใจสุดารัตน์ ทำได้ทำจริง โปรดเลือกพรรคไทยสร้างไทยพรรค”ส” หมายเลข 32
หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุด้วยว่า จะขอปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ตรวจสอบสัญญาที่เสียเปรียบ เพิ่มภาระให้ประชาชน จากการอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นถึงเกือบ 60% โดยประชาชนต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟส่วนเกิน ที่โรงไฟฟ้าไม่ต้องผลิตแม้เมกกะวัตเดียว เปรียบเสมือนสัญญาทาส ที่ปล้นประชาชน
ต้องปรับโครงสร้างพลังงานลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรมไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันลงชื่อ เพื่อฟ้องหน่วยงานรัฐต่อศาลอาญา ทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ใน 3 ส่วนดังนี้
1. สร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ด้วยการให้เอกชนทำสัญญาสัมปทาน ผลิตไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าที่ควรเป็น
2. การจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยซึ่งมีต้นทุนถูก ไปให้กับเอกชนไปใช้ในการผลิตสินค้าอื่น ส่งผลให้ต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศทดแทน ทำให้ต้นทุนการผลิตแพงกว่าถึง 5เท่า อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าไฟแพง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และมาตรา 57
3. ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ในส่วนข้อตกลงกับเอกชน ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังไม่จำเป็น (ดีมานด์ทิพย์) ให้พักการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าประเทศจะมีความต้องการจริง ในการใช้พลังงานเพิ่มเติม
สำหรับผู้ใดที่ต้องการร่วม “ฟ้องค่าไฟแพง” กับทางพรรคฯ สามารถกดลิ้งค์ได้ที่
https://forms.gle/gWm2AoZbZP1Dwtj59