วันนี้ (22 เม.ย.66) ที่จ.นครสวรรค์ "เครือเนชั่น" จัดเวทีดีเบตนโยบายหาเสียงภาคเหนือ เชิญแกนนำพรรคการเมืองเข้าร่วมภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” โดยช่วงแรกเป็นการประชันวิสัยทัศน์ของแต่ละพรรคการเมือง เริ่มจาก
+“ชาติพัฒนากล้า"ลุยแก้ค่าไฟแพง
นายอรรถวิชซ์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ชาติพัฒนากล้า จะเดินหน้าแก้ปัญหาเรื่องพลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟ สาเหตุที่เราต้องใช้ไฟแพงกว่าเพื่อนบ้าน เพราะเราตั้งสำรองไฟเกิน ตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ต่อมารัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้ง 2 รัฐบาลมีบทบาททำให้ค่าไฟขึ้น ดังนั้นนโยบายที่ชาติพัฒนากล้าจะทำทันที คือ ลดค่า FT 93 สตางค์/ยูนิต ติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ฟรี และสามารถขายไฟฟ้าคืนรัฐได้ อีกนโยบายคือ ปรับรูปแบบสหกรณ์เกษตรให้เข้มแข็ง ให้สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราจะขายข้าวให้มีราคาแพงขึ้น
+พท.มุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า เพื่อไทย จะเดินหน้าแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ด้านการเมือง จะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ไทยพ้นจากกับดักรัฐบาลเผด็จการ
ในด้านสังคม จะแก้ปัญหายาเสพติด เพื่อไทยจะปิดปัญหาที่เกิดจากเสรีกัญชา และเดินหน้าสร้างสังคมเท่าเทียม แก้ฝุ่นพิษ จัดทำพ.ร.บ.อากาศบริสุทธิ์ เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารเป็นรูปแบบการสมัครใจ
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดแข็งเพื่อไทย จะเดินหน้าให้เศรษฐกิจไทยโตไม่ต่ำกว่าปีละ 5% กระจายรายได้อย่างเป็นธรรม เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 700 บาท เพิ่มรายได้เกษตให้เพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปีข้างหน้า การเติมเงิน 1 หมื่นบาท กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดูแลประชาชน ทุกครอบครัวมีรายได้ 2 หมื่นบาท ช่วยกันกาพรรคเพื่อไทย เดินหน้าประเทศไทยอีกครั้ง
+พปชร.ลดค่าไฟบ้าน
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า นโยบายที่พรรรคพลังประชารัฐจะทำทันที คือ บัตรประชารัฐ เบี้ยผู้สูงอายุ 3-4-5 เงินเลี้ยงดูบุตร ลดค่าไฟบ้านเหลือ 2.50 บาท/หน่วย ลดราคาน้ำมัน ลดค่าแก๊สเหลือถังละ 250 บาท หากอยากก้าวข้ามความขัดแย้ง เลือกลุงป้อมเป็นนายกรัฐมนตรี
สิ่งสำคัญคือ แนวทางการทำงานรัฐบาล “ลุงป้อม” เป็นคนแรกที่พูดนโยบายชัดเจน คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง เพราะสังคมปัจจุบันแบ่งเป็นฝ่ายชัดเจน คิดต่างได้ แต่ต้องทำงานร่วมกันได้ เสถียรภาพของรัฐบาลจะทำให้เกิดความมั่นคงของชาติ เราต้องเลือกตั้งแล้วได้รัฐบาลที่ทำงานเพื่อประชาชน ทำให้ประชนมีความสุข ไม่ขัดแย้งกัน
+“ไทยสร้างไทย”อุ้มคนตัวเล็ก
น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จุดยืน จุดแข็ง จุดขาย ไทยสร้างไทย เราจะไม่พายเรือให้คนที่ปล้นประชาธิปไตยได้เข้าฝั่งอีกต่อไป เพราะทำให้ประชาชนตกระกำลำบากมาตลอด 8 ปี เราไม่ต้องการให้ลุงขึ้นฝั่งได้
จุดยืนต่อมาคือ จะช่วยเหลือคนตัวเล็ก เอาผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก การแก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นพิษ จากการทำลายขยะทางการเกษตรด้วยการเผา
เพิ่มราคาสินค้าเกษตร ข้ามหอมมะลิต้องราคาไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาท/ตัน ข้าวโพดไม่ต่ำกว่า 8 บาท/กก. เราจะเป็นนั่งร้านให้คนรุ่นใหม่ได้มาบริหารประเทศ เรายึดมันประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข นครสวรรค์ต้องไม่เป็นเมืองทางผ่าน โดยจะจัดกิจกรรม 12 ครั้ง/ปี
+รทสช.ขอดูแลฐานรากต่อ
ขณะที่ นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ประจำภาคเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการโจมตีลุงตู่ว่า 8 ปี ไม่ทำอะไรเลย จึงขอย้ำว่า สิ่งที่เราทำมาแล้วเราอยากจะทำต่อ โดยเฉพาะการดูแลฐานราก
นโยบายบัตรสวัสดิการพลัส เพิ่มการดูแลรากหญ้า 1000 บาท/ เดือน โดยไม่เป็นภาระการเงินการคลัง ใช้ได้ทุกที่ไม่จำกัดระยทาง ไม่มีวันหมดอายุ และยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ เดือนละ 1000 บาท
นอกจากนี้ รวมไทยสร้างชาติยังมีนโยบายด้านน้ำ การบริหารจัดการน้ำ ดูแลเกษตร นโยบายหาน้ำมันถูกให้เกษตรกร สร้างอีอีซี
+ชทพ.แก้ยากจน-ลดเหลื่อมล้ำ
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย รองหัวหน้าพรรค กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวว่า ชูนโยบาย ว้าวไทยแลนด์ แก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้สร้างอาชีพ สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ค้าขาย การแก้ปัญหาหนี้สินให้พี่น้องประชาชน ตั้งสินเชื่อบุคคลแห่งชาติ
ขณะที่นโยบายพัฒนาภาคเหนือ ด้านการท่องเที่ยว สร้างแบรนดิ้งใหม่ให้นครสวรรค์ เพิ่มการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านการเกษตร พัฒนาเกษตรอินทรีย์ และเกษตรปลอดภัย นครสวรรค์ต้องเป็นฮับแปรรูปสินค้าเกษตร และเป็นศูนย์กลางระบบรางทางภาคเหนือ ส่วนนโยบายสิ่งแวดล้อม ต้องแก้ไขออกกฎหมายอย่างจริงจัง เก็บเกี่ยวโดยไม่เผา
+ “ก้าวไกล”ทลายทุนผูกขาดแก้ค่าไฟแพง
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เลือกก้าวไกลรอบนี้จะลบล้างการรัฐประหาร หยุดแช่แข็งเหนือตอนล่าง ทลายทุนผูกขาดซึ่งเป็นที่มาของค่าไฟฟ้าแพง ก้าวไกลต้องการฉายภาพการเปลี่ยนแปลง
นอกจากนั้น ต้องหยุดปัญหาฝุ่นpm 2.5 ให้งบองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)จัดการปัญหาเรื่องฝุ่นได้ทันที
“เราต้องมีนายกฯ ที่ทำงานกับนานาชาติได้ ซึ่งเป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งจากระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ จะแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมซ้ำซาก งบพัฒนาแหล่งน้ำกระจายทุกพื้นที่ ความมั่นคงกับผู้สูงอายุ 60 ปีได้เงินบำนาญทั่วหน้า 3 พันบาท”
ขณะเดียวกันต้องหยุดแช่งแข็งพี่น้องชนบท ต้องมีที่ดินทำกิน เพื่อพัฒนาการเกษตร แก้ไขปัญหาที่ดิน สปก.เป็นโฉนด 10 ล้านไร่ ปลดหนี้เกษตรกร ส่งเสริมเอสเอ็มอีให้แข็งแรง เราต้องปลดล็อกการบริหาร ให้มีเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด
+ปชป.โชว์นโยบายแก้เศรษฐกิจ
นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรคภาคเหนือ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ มี 3 ยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ โครงการประกันรายได้ สนับสนุนทุนไร่ละ 2 พัน สนับนุนเอสเอ็มอี เพิ่มแหล่งทุนให้ร้านค้าชุมชน ฟรีอินเตอร์เน็ต 1 ล้านจุด
ส่วนการสร้างคน คือการสร้างสุขภาพที่ดี ตรวจฟรี รักษาฟรี ด้วยประชาชนใบเดียว ส่วนการสร้างชาติ ระบบรัฐสภาที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขต้องคงอยู่ ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ภาคเหนือจะต้องเชื่อมโลก ภาคการเกษตร เข้มแข็ง ยกระดับเกษตรกร สนับสนุนเครื่องมือแปรรูป พร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ
เชื่อมภาคขนส่ง ด้วยการเพิ่มระบบขนส่ง เชื่อมกับประเทศเพือนบ้าน ใช้ซอฟต์พาวเวอร์ไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ มั่นใจประสบการณ์ นายจุรินทร์ พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศ