เวทีดีเบตเนชั่นสุดคึก 8 พรรคโชว์กึ๋นบูมภาคตะวันออกสู้ศึกเลือกตั้ง

8 เมษายน 2566 ที่ศาลากลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี "เครือเนชั่น" จัดเวทีดีเบตนโยบายหาเสียง ฟังนโยบายภาคตะวันออก เชิญแกนนำพรรคการเมืองร่วมเวทีภายใต้โครงการ "Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" โดยช่วงแรกเป็นการประชันวิสัยทัศน์ของแต่ละพรรคการเมือง 

นายสนธยา คุณปลื้ม สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาคตะวันออกเป็นภาคที่มีรายได้มากถึงปีละ 8 แสนล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าภาคตะวันออกเป็นภาคที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ สร้างรายได้ 17 เปอร์เซ็นของจีดีพีประเทศ

โดยแนวคิดนโยบายเพื่อไทยคือ "คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน" เน้นการบรรเทาทุกข์ของประชาชน อาทิ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ การเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน ภาคบริการ การท่องเที่ยว ตั้งเป้า 2570 มีรายได้ 3 ล้านล้านจากการท่องเที่ยวและจะจัดให้มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น

อีกเรื่องที่สำคัญ การปลดล็อกอาชีพประมง แก้ไขพ.ร.ก.ประมง 2558 เรื่องไอยูยู การปรับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเดินช้ากว่าโลก เมื่อ 45 ปีที่แล้วประเทศไทยและไต้หวันมีรายได้ประชากรต่อหัวเท่ากัน ปัจจุบันไทยมีรายได้ต่อหัวน้อยกว่าไต้หวัน 5 เท่า สาเหตุ คือ เทคโนโลยีที่ล้าหลัง

ดังนั้น เราต้องพัฒนาเทคโนโลยี เริ่มจากการพัฒนาโครงสร้างระบบขนส่งสาธารณะโดยพรรคก้าวไกลจะทำให้ภาคตะวันออกมีรถเมล์ไฟฟ้า เชื่อมโยงจุดเดินทางต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ประชาชนมีต้นทุนการใช้ชีวิตต่ำลง ลดฝุ่น อีกทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่พัฒนาภาคการเกษตรเพราะมีผลไม้ขึ้นชื่ออย่าง มังคุด ทุเรียน ส้มโอ ให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะทำให้ไทยมีซัพพลายเชน

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ภาคตะวันออกต้องพิเศษ จีดีพีของจ. ระยองและจ.ชลบุรี รวมกันเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลต้องมาดูแล ความสมดุลการพัฒนาต้องเกิดขึ้นที่นี่ ปลาเล็กต้องถูกดูแลโดยปลาใหญ่ พร้อมกล่าวย้ำว่า ปราจีนบุรีควรเข้าร่วมพื้นที่อีอีซีเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา ระบบสาธารณสุขต้องพร้อม ประชาชนเข้าถึงการบริการด้านแพทย์ซึ่งสกายด็อกเตอร์จะตอบโจทย์ ตรวจรักษามะเร็งฟรี

นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ช่วงโควิดเราประคองอุตสาหกรรมส่งออกและท่องเที่ยวด้วย โครงการแฟคตอรี่ แซนด์ บ็อกซ์ ตรวจรักษาฉีดวัคซีนฟรี จำกัดพื้นที่ ซึ่งทำให้ไม่ต้องปิดโรงงาน

นอกจากนี้ยังเจรจากับทางซาอุดิอารเบียสำเร็จเรื่องแรงงาน นโยบายที่จะทำ คือ เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม ค่าเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่แรกเกิด –อายุ 6 ขวบ เป็นต้น

ผศ.ดร.สันติ กีระนันท์ กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เราไม่เชื่อเรื่องประนิยมแบบไร้เหตุผลและการลด แลก แจก แถม จะยั่งยืน โดยพรรคเราจะเน้นการพัฒนาเกษตรกรรม ส่งเสริมท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ฟื้นฟูประมงชายฝั่ง

ภาคตะวันออกเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นการผลักดันอีอีซี ให้มีการพัฒนาแบบสานต่อเพิ่มเติมจากเดิม อีสเทิร์น ฟรุต คอริดอร์ วันนี้ถึงเวลาให้คนเก่งพาคนไทยไปสู่ยุคใหม่ นานาชาติให้การยอมรับ นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

นายประวัฒน์ อุตตะโมช รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ไทยสร้างไทยห่วงคนตัวเล็ก อยากให้คนตัวเล็กพึ่งตัวเองได้  อยากเห็นประชาธิปไตยที่ไม่ต้องซื้อสิทธิ์ขายเสียง เราเน้นนโยบายเพื่อคนตัวเล็ก เช่น นโยบายเครดิตประชาชน ปลดหนี้  เติมทุน สานต่อกองทุนเอสเอ็มอี และนโยบายบำนาญประชาชนคนละ 3,000 บาท/เดือน

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การวางรากฐานอีอีซี พัฒนาอุตสาหกรรม เพราะจะเป็นรายได้หลักของภาคตะวันออกต่อไป ผลักดันทุกภาคอุตสาหกรรมให้ไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัล

นอกจากนี้พลังประชารัฐมุ่งพัฒนาคนที่จะเข้ามาทำงานภาคอุตสาหกรรม ด้วยการเสริมสร้างประสิทธิภาพ คุณภาพการดูแลพี่น้องเกษตรกร ให้มีน้ำเพียงพอทำการเกษตร เข้าไปดูแลเรื่องการตลาด สร้างแพลทฟอร์มเชื่อมโยงตลาดเข้ามาสู้ธุรกิจสมัยใหม่อย่างเต็มที่

กองทุนเพื่อสตาร์ทอัพ 5 ล้านบาท สำหรับคนที่ต้องตั้งธุรกิจใหม่ เพื่อให้แข่งขันกับต่างประเทศได้พร้อมกับการดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลผู้สูงอายุ เราต้องมีนายกรัฐมนตรีที่ประสานกับทุกฝ่ายได้ ขับเคลื่อนประเทศ "ลุงป้อม" ทำได้ ถ้าให้โอกาส "ลุงป้อม" เป็นนายกฯจะทำให้บ้านเมืองเข้มแข็งขับเคลื่อนไปได้ 

นายพณาเจือเพ็ชร์ กฤษณะราช รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชาวตะวันออก คือการที่ภาคอุตสาหกรรมเข้ามาทำงานสร้างปัญหามากมาย เราจะต้องเข้าไปดูแล สร้างอ่างเก็บน้ำ ให้ช้างดื่ม แก้ปัญหาช้างกระทืบชาวบ้าน พรรคชาติพัฒนากล้า จะหาเงินเข้าประเทศจากเศรษฐกิจสายมู