คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายวิจักร อากัปกริยา กรรมการบริหารพรรค พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย จังหวัดปัตตานี ประกอบด้วย เขต 1 ดร.ชลิต ศรีสมาน เบอร์ 9 เขต 2 น.ส.นาซีฮะห์ ลาเตะ เบอร์ 6 เขต 3 นายอีบรอฮิม ยานยา เบอร์ 6 เขต 4 นายอาลีฟ มาแฮ เบอร์ 9 ร่วมลงพื้นที่ จ.ปัตตานี
จุดแรก ที่มัสยิดกลางปัตตานี โดยได้พบปะผู้นำศาสนา และเดินตลาดหน้ามัสยิดกลางเพื่อพูดคุยกับพี่น้องประชาชน จากนั้นได้สักการะศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวปัตตานี เพื่อความเป็นสิริมงคล และยังถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนที่นี่ด้วย ต่อจากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ประชุมหารือกับประธานสภาหอการค้า และตัวแทนกับตัวแทนนักธุรกิจในพื้นที่
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาส มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความงดงามของธรรมชาติ รวมทั้งมีสินค้าเกษตรที่สำคัญ วันนี้ปัตตานีและจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมแล้ว ที่จะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยว
อีกทั้งยังมีอาหารฮาลาลที่ขึ้นชื่อมากมาย พรรคไทยสร้างไทยพร้อมผลักดัน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยให้เป็นครัวฮาลาลของโลก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว วัฒนธรรม โดยพรรคเห็นว่าสามจังหสัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่แห่งศักยภาพที่จะสามารถดึงดูดชาวมุสลิมทั่วโลกมาเยือน และสร้างรายได้ให้ประเทศไทยและประชาชนได้มหาศาล พรรคไทยสร้างไทย จะผลักดันให้ จังหวัดชายแดนใต้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อยกระดับจังหวัดเหล่านี้ สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารฮาลาลของโลก ส่งออกไปยัง ประเทศมุสลิมทั่วโลก ทั้งยังเป็นการยกระดับราคาสินค้าเกษตร
"ประชากรมุสลิมทั่วโลกมีถึง 1,565 ล้านคน หากเราส่งเสริมให้ที่นี่เป็นครัวอาหารฮาลาลโลกที่เสิร์ฟพร้อมอัธยาศัยไมตรีของพี่น้องมุสลิม เราจะสามารถดึงดูดชาวมุสลิมทั่วโลกให้มากิน มาเที่ยวที่นี่ได้อีกมากมาย พรรคไทยสร้างไทยเห็นศักยภาพพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ซึ่งสามารถออกแบบให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าและอาหารฮาลาลของโลก เพื่อรองรับมุสลิมกว่า 1.5 พันล้านคน ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล"
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุด้วยว่า หากพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้จะต้องหมดไป ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย จะพิจารณาปรับกฎอัยการศึก และพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างจริงจัง เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในพื้นที่
โดยจะนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร มาใช้แก้ปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ จะใช้การเมืองนำการทหาร และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในการคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงการสร้างแผนเมืองอัจฉริยะ หรือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับพิสูจน์บาดแผลโดยไม่ต้องทำการผ่าพิสูจน์
และที่สำคัญขั้นตอนการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยให้มีการบันทึกภาพวีดีโอผู้ถูกควบคุมตลอดเวลา และที่สำคัญหากมีการวิสามัญฆาตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จะต้องมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง ทั้งศาล อัยการ หรือผู้สื่อข่าว จะต้องสร้างแนวทางการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมให้ได้